Cherry เป็นแบรนด์ผู้ผลิตสวิตช์คีย์บอร์ดชั้นนำที่มีชื่อเสียงโด่งดังในกลุ่มคนรัก Mechanical Keyboard โดยสวิตช์ Cherry MX เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้คีย์บอร์ดมีความนุ่มนวล ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และให้ฟีลลิ่งในการใช้งานที่ดี Cherry ได้พัฒนาและผลิตสวิตช์แบบแมคคานิคมากมายหลายประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ Cherry MX Switch คืออะไร มีกี่สี แต่ละสีเหมาะกับการใช้ยังไง
รู้จักกับ Cherry MX Switch คืออะไร
Cherry MX Switch คือ ชิ้เป็นสวิตซ์มาตรฐานสำหรับแป้นพิมพ์ของคีย์บอร์ดแมคคานิค ถือเป็นหัวใจหลักที่ส่งผลต่อการตอบสนองที่รวดเร็วและความรู้สึกที่ดีขณะการพิมพ์
สวิตช์แมคคานิคชนิดผลิตโดย Cherry Corporation ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำจากเยอรมนี มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบและผลิตสวิตช์คีย์บอร์ดคุณภาพสูงมากว่า 40 ปี โดยใช้กลไกแมคคานิคที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงพิมพ์ที่นุ่มนวล ตอบสนองได้รวดเร็ว และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
Cherry ได้คิดค้นและพัฒนาสวิตช์แมคคานิคหลากหลายรุ่น เช่น Cherry MX Red, Cherry MX Brown, Cherry MX Blue เป็นต้น แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว อาทิ แรงกดปุ่ม ระยะการกดก่อนจุดสัมผัส การมีเสียงคลิก หรือความสามารถในการปล่อยปุ่มกลับจุดเริ่มต้น ซึ่งจะตอบโจทย์การใช้งานและความชอบของผู้ใช้ที่แตกต่างกันออกไป
ด้วยคุณภาพและประสิทธิภาพสูง จึงไม่แปลกที่สวิตช์ Cherry MX จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยผู้ผลิตคีย์บอร์ดรายใหญ่หลายรายก็มักนำสวิตช์จาก Cherry ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนด้วยเช่นกัน
แนะนำ 8 Cherry MX Switch ที่คุณควรรู้
เราสามารถแบ่งชนิดของ Cherry MX Switch แต่ละรุ่นตามสัมผัสและการตอบสนองได้ 2 ประเภทกว้างๆ คือ Linear Switch และ Tactile Switch โดย
Cherry MX Blue Switch (คลิกเสียงแน่น)
Cherry MX Blue เป็นสวิตช์แมคคานิคที่ให้เสียงคลิกที่แน่นหนา สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ สามารถพิมพ์ได้อย่างราบรื่น จึงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักพิมพ์มืออาชีพหรืองานประเภทที่ต้องใช้การพิมพ์เป็นหลัก แต่เสียงคลิกที่ดังอาจรบกวนบุคคลอื่นได้
Cherry MX Brown Switch (แรงกดเบา ไร้เสียงคลิก)
สำหรับนัเกมเมอร์ที่ต้องการสวิตช์มีแรงกดค่อนข้างน้อย Cherry MX Brown จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะให้ความรู้สึกแรงกดที่เบา รวมถึงระยะ Pre-travel)ที่สั้น ทำให้การปล่อยปุ่มกลับสู่จุดเริ่มต้นรวดเร็ว รองรับการพิมพ์แบบรัวๆ ได้ดี MX Brown ไม่มีเสียงคลิกดังเหมือนรุ่น Blue จึงไม่มีเสียงรบกวน เหมาะสำหรับการใช้งานในสำนักงาน การเล่นเกม หรือการทำงานที่ไม่ต้องการเสียงดัง
Cherry MX Red Switch (แรงกดน้อยที่สุด เหมาะเกม)
Cherry MX Red เป็นสวิตช์แบบเรียบที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเกมเมอร์ ให้ฟีลลิ่งในการกดที่นุ่มนวลที่สุด ประกอบกับไม่มีจุดสัมผัสในช่วงแรกของการกด ทำให้การตอบสนองต่อการกดปุ่มนั้นรวดเร็วมาก เหมาะสำหรับเกมเมอร์หรืองานด้านการออกแบบกราฟิก ที่ต้องกดปุ่มรัว ๆ อย่างไรก็ตาม สวิตช์ MX Red ไม่มีจุดสัมผัสที่แน่นอน จึงอาจทำให้พิมพ์ผิดพลาดได้ง่าย ถ้าผู้ใช้ไม่คุ้นชิน
Cherry MX Black Switch (แรงกดมากที่สุด)
Cherry MX Black เป็นสวิตช์ที่ต้องใช้แรงกดค่อนข้างมาก ไม่มีจุดสะดุด และมีแรงต้านคงที่ จึงเหมาะสำหรับคนที่ทำงานที่ต้องพิมพ์เยอะ ๆ หรืองานที่ต้องการความแม่นยำสูง แต่การใช้งานแบบต่อเนื่องยาวนาน อาจทำให้เกิดล้านิ้วและข้อมือได้ เพราะต้องออกแรงกดมากกว่าสวิตช์แบบอื่น
Cherry MX Speed Silver Switch (ความเร็วสูง)
สำหรับนักกีฬา e-Sports หรือนักเล่นเกมมืออาชีพ ที่ต้องการการตอบสนองทันที Cherry จึงได้สร้างสรรค์สวิตช์ MX Speed Silver ที่ออกแบบมาเพื่อความรวดเร็วโดยเฉพาะ โดยระยะ Pre-travel ประกอบกับแรงกดที่ค่อนข้างน้อย ทำให้ตอบสนองต่อการกดได้อย่างฉับไว นอกจากนี้ MX Speed Silver ยังมีคุณสมบัติป้องกันการกดปุ่มซ้ำโดยไม่ตั้งใจ เมื่อกดแล้วจึงไม่สามารถกดติดต่อกันได้อีกจนกว่าจะปล่อย
Cherry MX Silent Red Switch (เงียบสงบ)
เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ในสำนักงาน MX Silent Red เป็นสวิตช์ที่พัฒนามาจากรุ่น MX Red มีแรงกดเบาเพียง 45 กรัม แต่เพิ่มคุณสมบัติการดูดซับเสียงดังจากการกดปุ่มเพื่อลดเสียงรบกวนต่อผู้อื่น
Cherry MX Clear Switch (แรงกดปานกลาง)
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานคีย์บอร์ดแบบกลางๆ ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป MX Clear เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยแรงกดปานกลางที่ 65 กรัม พร้อมจุดสัมผัสที่ชัดเจนและการตอบสนองที่ดี รวมถึงไม่มีเสียงคลิกดังรบกวน ทำให้ MX Clear เป็นสวิตช์ที่ยืดหยุ่นและเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปได้หลากหลายประเภท
Cherry MX Green Switch (คล้ายคลึง Blue แต่แรงกดมากกว่า)
สำหรับใครที่ชื่นชอบเสียงคลิกของ MX Blue แต่ต้องการแรงกดที่มากกว่า MX Green จะเป็นคำตอบที่ดี โดยให้เสียงคลิกชัดเจนเหมือนรุ่น Blue แต่มีแรงกดสูงถึง 80 กรัม ทำให้รู้สึกมั่นคงและให้ความมั่นใจในการพิมพ์ อย่างไรก็ตาม แรงกดที่สูงนี้อาจทำให้เกิดความล้าของนิ้วและข้อมือได้หากใช้งานเป็นเวลานาน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องพิมพ์เป็นช่วงๆ หรืองานที่ไม่ต้องพิมพ์ตลอดเวลา
นอกจากนี้ Cherry ยังมีสวิตช์แมคคานิครุ่นพิเศษอีกหลายประเภท เช่น MX RGB ที่มีแสงไฟ LED หลากสี เพื่อตกแต่งคีย์บอร์ด หรือ MX Low Profile ที่มีความหนาบางเพียง 11.9 มม. สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกในการพกพา เป็นต้น
จากการอธิบายด้านบนคงจะรู้จัก Cherry MX Switch คืออะไร มีกี่สี กี่ประเภท จะเห็นได้ว่า Cherry MX Switch มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งคนทำงานที่ต้องพิมพ์นาน ๆ นักเล่นเกม หรือผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่ง Mechanical Keyboard แต่ละรุ่นก็จะมี Cherry MX Switch ที่แตกต่างกันไป ใครสนใจก็ไปเลือกตามฟังก์ชันการใช้งานที่ชอบ ฟิลลิ่งในการใช้คีย์บอร์ดที่ใช่ ราคาที่ถูกใจกันได้เลย