เปิดโลกคีย์บอร์ด Magnetic Switch VS Mechanical ต่างยังไง แบบไหนเหมาะกับคุณ

     หนึ่งอุปกรณ์ที่เหล่า IT หรือเกมเมอร์ ให้ความสำคัญไม่แพ้สเปคคอมก็คือคีย์บอดร์ด ด้วยความที่คีย์บอร์ดที่ดี มีฟังก์ชันเหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองการใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างตรงจุดและเต็มประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงคีย์บอร์ดยอดฮิต 2 ประเภทอย่าง Magnetic Switch และ Mechanical ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่มีกลไกและความน่าสนใจแตกต่างกัน ซึ่ง Magnetic Switch VS Mechanical ต่างกันยังไง เราจะพาไปหาคำตอบกัน

     ไขข้อข้องใจ คีย์บอร์ด Magnetic Switch VS Mechanical ต่างกันยังไง

หากมองจากภายนอกเราคงตอบไม่ได้แน่นอนว่าคีย์บอร์ด Magnetic Switch VS Mechanical ต่างกันยังไง เพราะสุดท้ายแล้วจะเป็นคีย์บอร์ดประเภทไหน รูปลักษณ์ภายนอกมันก็แทบจะเหมือนกันหมด แต่ถึงอย่างนั้น กลไกการทำงาน หรือแม้แต่ฟังก์ชันพิเศษของคีย์บอร์ดแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันออกไป โดยเราสามารถแบ่งได้ดังนี้ 

Mechanical Switch 

เป็นปุ่มกดที่ชิ้นส่วนภายในจะเป็นกลไก มีขาทองแดง 2 อันซ่อนอยู่ข้างใน เมื่อเรากดปุ่มลงไปขาทองแดงก็จะถูกดันให้มาสัมผัสกัน และเกิดกระแสไฟฟ้าแบบครบวงจร ส่งสัญญาณเข้าสู่คอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบ ตามแรงกด และเสียงที่ออกมา ประกอบด้วย Clicky Linear และ Tactile เรียงตามเสียงกด และแรงที่ใช้ในการกดจากมากไปน้อย แต่ตัว Linear จะเป็นสวิตช์ประเภทเดียวเท่านั้นที่มีแรงกด 1 จังหวะ อีก 2 ประเภทที่เหลือจะใช้แรงกด 2 จังหวะทั้งหมด 

ข้อดี 

     ถึงจะแบ่งได้ 3 รูปแบบ แต่ในยุคนี้มีสวิตช์ให้เลือกหลากหลายสีสัน แต่ละสีก็มีแรงกด และเสียงที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราสามารถปรับแต่งได้หลากหลายขึ้นกว่าเดิม 
โดยส่วนใหญ่แล้วจะรองรับการ Hot-swap ทำให้เราสามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้ โดยที่ไม่ต้องบัดกรีให้วุ่นวาย
แต่งให้สวยงามง่าย เพราะสามารถดึงแป้นพิมพ์ออกมาได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแผงวงจร 

ข้อจำกัด 

    ด้วยความที่ปุ่มกดทำงานด้วยกลไกทองแดง ปุ่มกดจึงสึกหรอง่าย มีอายุการใช้งานประมาณ 80 ล้านคลิกเท่านั้น ถ้าเทียบกับปุ่มคีย์บอร์ดที่ไม่มีกลไกภายใน จะสามารถใช้งานได้มากกว่า 100 ล้านครั้ง หากพูดถึงความคุ้มค่าของราคาที่เสียไป ตัวนี้อาจมีความคุ้มค่าน้อยกว่า 
สวิตช์บางสีให้สัมผัสที่ถูกใจ แต่อาจจะเสียงดังเกินไป ในขณะที่บางสีอาจมีเสียงเบา ไม่รบกวนสมาธิ แต่สัมผัสกลับไม่ถูกใจผู้ใช้

Magnetic Switch 

ลักษณะภายนอกทั้งตัวคีย์แคป และปุ่มกดแทบจะแยกไม่ออกจาก Mechanical Switch แต่รูปแบบการทำงานของมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะ Magnetic Switch ไม่ได้ทำงานด้วยแท่งทองแดง แต่จะใช้แม่เหล็กข้างใน 1 อัน และมีเซ็นเซอร์อยู่ใต้สวิตช์ทำหน้าที่ตรวจจับระยะห่างของแม่เหล็ก เวลาที่เรากดปุ่มก็จะทำให้แม่เหล็กอยู่ใกล้กับเซ็นเซอร์ เซ็นเซอร์ก็จะส่งสัญญาณไปยังแผงวงจรเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เราเลยสามารถเลือกระยะการกดได้ละเอียดขึ้นกว่าเดิม 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 1 ปุ่ม สามารถป้อนได้มากกว่า 1 คำสั่ง อย่างเช่น แป้นตัว W หากกดเบาจะเป็นการเดิน หากกดแรงๆ ก็จะเป็นการวิ่ง เวลาที่เราอยู่ในเกม บางแบรนด์สามารถตั้งค่าได้ถึง 4 คำสั่งใน 1 ปุ่ม มันเลยตอบโจทย์คนเล่นเกมได้ดีกว่า 

ข้อดี 

• อายุการใช้งานยาวนานกว่า 100 ล้านคลิก
• สามารถส่งข้อมูลได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว
• มีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย สามารถตั้งค่าให้ 1 ปุ่ม ส่งได้มากถึง 2 คำสั่งขึ้นไป 

ข้อจำกัด 

• ไม่รองรับการ Hot-swap ถ้าต้องการเปลี่ยนสวิตช์ก็ต้องบัดกรีเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถทำเองได้ ราคาในการปรับแต่งสูงขึ้นกว่าเดิม
• ประเภทสวิตช์ในปัจจุบันนี้มีเพียงแค่ Linear เสียงอาจจะไม่ดังถูกใจสายเกมสักเท่าไหร่

แนะนำคีย์บอร์ด Magnetic Switch และคีย์บอร์ด Mechanical ที่น่าสนใจ 

Akko Mod 007B PC 

     คีย์บอร์ด Mechanical สวิตช์แม่เหล็กรุ่นใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์ อัปเกรดใหม่เป็นแบบไร้สายที่ช่วยให้การเล่นเกมของคนไร้ขีดจำกัดขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมคีย์แคปสีสันสวยงาม มีลวดลายโดดเด่นสะดุดตา และมีไฟลอดใต้แป้นเพิ่มความน่าสนใจ แบตเตอรี่ขนาด 3,600 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายวัน 

ราคา 4,590 บาท รับประกันการใช้งาน 1 ปี 

Polar 65

     เป็นคีย์บอร์ด Mechanical ที่ตอบโจทย์สายมินิมอลสุดๆ ที่สำคัญคือมีขายในไทย ไม่ต้องรอ Pre Order แม้ว่าปัจจุบันจะไม่สามารถปิดใช้งาน Rapid Trigger ได้อย่างอิสระ แต่ก็แลกมากับรูปลักษณ์ที่สวยงาม และสเปกที่คุ้มค่ากับราคา ตัวเคสทำมาจากอะลูมิเนียม แถมยังมีมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP54 อีกด้วย ขนาดเล็กกะทัดรัดเพียง 65% เท่านั้น 

ราคา 6,790 บาท รับประกันการใช้งาน 1 ปี

Apex Pro (2023)

     คีย์บอร์ดที่สาย Gaming ต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะมันคือ Mechanical Keyboard จากแบรนด์ SteelSeries ถือว่าเป็นคีย์บอร์ดสวิตช์แม่เหล็กรุ่นแรกในตลาดก็ว่าได้ และอัปเกรดใหม่ให้สามารถรองรับ Rapid Trigger ได้ด้วย จะใช้เล่นเกม หรือทำงานก็เหมาะสม มีจอ OLED เล็กๆ ข้างบนเพิ่มลูกเล่นสวยงาม มาพร้อมไฟลอดใต้แป้น แถมยังให้ที่รองข้อมือมาด้วย 

ราคา 6,990 บาท รับประกันการใช้งาน 1 ปี 

VXE ATK 68

     เริ่มต้นกันที่ตัวเล็กสเปกแรง แต่ราคาประหยัดเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดประเภทเดียวกัน เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับเคสอะลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน สามารถตั้งค่า 1 ปุ่มได้ถึง 4 คำสั่ง มีไฟลอดใต้คีย์บอร์ดสวยงาม และคีย์บอร์ดมีฟอนต์ไทยเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ต้องระวังคือหากอยู่ใกล้กับแม่เหล็กจะค่อนข้าง Sensitive สูง เวลาวางบนโต๊ะคอมอาจต้องระมัดระวังสักหน่อย เพราะแม่เหล็กอาจทำให้ปุ่มลั่นเองได้ 

ราคา 4,990 บาท รับประกันการใช้งาน 1 ปี 

DrunkDeer A75

     อีกหนึ่งคีย์บอร์ดยอดนิยมของสายเล่นเกมที่มาพร้อมกับสเปกไม่แตกต่างจากรุ่นใหญ่ มีจำนวน 82 ปุ่มกับอีก 1 Knob ขนาด 75% น่ารักกำลังพอดีสำหรับคนชอบแต่งโต๊ะคอม มีตัวแทนขายในประเทศไทย สามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ผ่านทางเว็บไซต์ โดยที่เราไม่ต้องไปลงโปรแกรมให้เปลืองพื้นที่เครื่อง แถมยังมาพร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP66 อีกด้วย

ราคา 5,390 บาท 

Monsgeek M1 HE

     ใครชอบคีย์บอร์ดเรียบๆ ต้องรุ่นนี้เลย เพราะฟรอนท์ตัวอักษรจะอยู่ด้านข้างแป้น แทนที่จะอยู่ข้างบน ที่สำคัญคือสามารถรองรับสวิตช์แม่เหล็กได้ เคสเป็นอะลูมิเนียมแข็งแรงทนทานทั้งข้างบน และข้างล่าง มีไฟลอดเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกระดับ มาพร้อมกับจำนวน 82 ปุ่มและอีก 1 Knob ตัวสวิตช์เป็น Akko Cream Yellow

ราคา 4,590 บาท รับประกันการใช้งาน 1 ปี 

     สรุปแล้ว คีย์บอร์ด Magnetic Switch VS Mechanical ต่างกันยังไง คำตอบก็คือต่างกันที่กลไกการส่งข้อมูล ตัว Mechanical Switch ภายในจะเป็นขาทองแดง 2 ขา ที่มีขาพลาสติกกั้นระหว่างกันอยู่ เวลากดเข้าไปขาพลาสติกก็จะดันให้แท่งทองแดงทั้ง 2 อันประกบติดกัน ไฟฟ้าถึงจะครบวงจร และส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ได้ ส่วน Magnetic Switch ข้างในปุ่มจะเป็นแม่เหล็ก ส่วนด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์ เวลาที่เรากดปุ่มลงไป แม่เหล็กก็จะเข้าใกล้เซ็นเซอร์ จากนั้นก็จะส่งสัญญาณเข้าสู่คอมพิวเตอร์อีกที มันเลยมีฟังก์ชันพิเศษที่เราสามารถตั้งค่าคำสั่งให้แตกต่างกันได้ในปุ่มเดียว โดยแยกจากความแรงในการกด