• ล่าสุด
  • รีวิวเทคโนโลยี

เปรียบเทียบ iPad 3 รุ่นล่าสุด แตกต่างกันอย่างไร เลือกรุ่นไหนดี

โพสต์เมื่อ 6 Jan 2025
by Utech 21 Views

เปรียบเทียบ iPad 3 รุ่นล่าสุด แตกต่างกันอย่างไร เลือกรุ่นไหนดี?

เปรียบเทียบ-iPad-3-รุ่นล่าสุด-cover.jpg

ในยุคปัจจุบันที่แท็บเล็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะด้านการเรียนและการทำงาน iPad คือหนึ่งในแท็บเล็ตที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพ และระบบการทำงานที่เสถียร การเลือกซื้อไอแพดให้เหมาะกับความต้องการจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาคือวัตถุประสงค์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน ความบันเทิง หรือการสร้างสรรค์งานด้านศิลปะรูปแบบต่างๆ และหากคุณกำลังมองหาไอแพดสักเครื่อง แต่ยังลังเลว่าจะเลือกรุ่นไหนดี บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างไอแพดทั้ง 3 รุ่นหลัก พร้อมแนะนำว่ารุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานแบบใด ไปดูกันได้เลย

iPad แท็บเล็ตระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน

เปรียบเทียบ-iPad-3-รุ่นล่าสุด-01.jpg

iPad เป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมียมจาก Apple ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาหลายรุ่น ด้วยจุดเด่นทั้งการออกแบบที่สวยงามทันสมัย วัสดุคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน และประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้นด้วยชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด ระบบปฏิบัติการ iPadOS ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับไอแพด ช่วยให้รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอย่างลื่นไหล ตั้งแต่งานพื้นฐานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำระดับมืออาชีพ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงไม่แปลกเลยที่แท็บเล็ตอย่าง ไอแพด กลายเป็นผู้นำของวงการ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ipad มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Pro, Air, และ Gen 10 ซึ่งแต่ละรุ่นได้รับการออกแบบและพัฒนามาอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้ในทุกระดับ โดยแต่ละรุ่นมีจุดเด่นและคุณสมบัติเฉพาะตัวที่โดดเด่นแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นด้านประสิทธิภาพการประมวลผล คุณภาพหน้าจอ ความสามารถในการรองรับอุปกรณ์เสริม หรือฟีเจอร์พิเศษต่างๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน ความต้องการด้านฟังก์ชั่น และงบประมาณของตนเองได้อย่างลงตัว

เปรียบเทียบทุกรุ่น จุดเด่นแตกต่างกันอย่างไร? เลือกรุ่นไหนดี?

มาดูการเปรียบเทียบทั้ง 3 รุ่นหลักกัน โดยแต่ละรุ่นมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในด้านสเปค ประสิทธิภาพ และราคา ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์กันอย่างละเอียดเพื่อให้คุณสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้

1. iPad Pro รุ่นท็อปสุดสำหรับมืออาชีพ

เปรียบเทียบ-iPad-3-รุ่นล่าสุด-02.jpg

สำหรับรุ่น Pro เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตระกูล ด้วยชิป M4 ที่ทรงพลัง หน้าจอ Ultra Retina XDR (OLED สองชั้น) ขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่รองรับอัตรารีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz ทำให้การแสดงผลลื่นไหลและคมชัดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังรองรับ Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard ตัวล่าสุด ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานให้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์

หน่วยความจำของ Pro มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB ไปจนถึง 2TB เพื่อรองรับการจัดเก็บไฟล์งานขนาดใหญ่และแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำงานระดับมืออาชีพ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกความจุที่เหมาะสมกับปริมาณข้อมูลและรูปแบบการใช้งานของตนเองได้

หน่วยความจำ RAM ของ Pro มีขนาดที่เพียงพอต่อการทำงานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 8GB สำหรับรุ่นความจุ 256GB และ 512GB จนถึง 16GB สำหรับรุ่นความจุ 1TB และ 2TB ช่วยให้สามารถสลับการทำงานระหว่างแอปต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกัน

จุดเด่นของ Pro คือการรองรับการทำงานระดับมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิก การตัดต่อวิดีโอ หรือการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ด้วยกล้องด้านหลังระบบ LiDAR Scanner ที่ช่วยในการสแกน AR และถ่ายภาพคุณภาพสูง พร้อมระบบ Face ID ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

ข้อเด่นอีกประการหนึ่งคือระบบเสียง 4 ลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง ทำให้ Pro เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่ารุ่นอื่น แต่ก็คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

สรุป

  • หน้าจอ : Ultra Retina XDR (OLED สองชั้น) ขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz
  • ชิปประมวลผล : M4
  • ความจุ (ROM) : 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB
  • RAM : 8GB สำหรับรุ่นความจุ 256GB, 512GB และ 16GB สำหรับรุ่นความจุ 1TB, 2TB
  • กล้องหลัง : กล้องไวด์ 12MP เทคโนโลยี LiDAR Scanner
  • รองรับ Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard

2. iPad Air รุ่นกลางที่ลงตัวทั้งประสิทธิภาพและราคา

เปรียบเทียบ-iPad-3-รุ่นล่าสุด-03.jpg

รุ่น Air ล่าสุดมาพร้อมชิป M2 ที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา หน้าจอ Liquid Retina ขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสมจริง พร้อมรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Magic Keyboard สำหรับการทำงานที่หลากหลาย

ในด้านหน่วยความจำรุ่น Air มีให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป การถ่ายภาพ และการติดตั้งแอปพลิเคชันที่จำเป็น RAM ขนาด 8GB ช่วยให้สามารถทำงานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างคล่องตัว แม้จะไม่เทียบเท่ารุ่น Pro แต่ก็เพียงพอสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและมืออาชีพระดับกลาง

กล้องหน้าของรุ่น Air มาพร้อมเซ็นเซอร์ 12MP พร้อมฟีเจอร์ Center Stage ที่ช่วยให้การประชุมทางไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบเสียงสเตอริโอให้ประสบการณ์การรับชมวิดีโอและการสนทนาที่ชัดเจน แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง ทำให้เหมาะกับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่

ระบบการเชื่อมต่อและการถ่ายโอนข้อมูลที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง รองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบ ด้วยพอร์ต USB-C ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้อย่างหลากหลาย พร้อมความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 สำหรับการทำงานแบบไร้ขีดจำกัด

อีกทั้งยังมีระบบ Touch ID ที่ฝังอยู่ในปุ่มเปิดปิดเครื่อง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน และการเชื่อมต่อผ่าน USB-C ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ทำให้สะดวกในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น จอภาพภายนอก หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วที่ช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว

สรุป

  • หน้าจอ : Liquid Retina ขนาด 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว
  • ชิปประมวลผล : M2
  • ความจุ (ROM) : 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
  • RAM : 8GB
  • กล้องหน้า : 12MP พร้อมฟีเจอร์ Center Stage
  • การเชื่อมต่อ : พอร์ต USB-C, Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3
  • รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Magic Keyboard

3. Gen 10 ตัวเลือกคุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

เปรียบเทียบ-iPad-3-รุ่นล่าสุด-04.jpg

สำหรับรุ่นที่ 10 เป็นรุ่นพื้นฐานที่มาพร้อมชิป A14 Bionic ซึ่งให้ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ ดูหนัง ฟังเพลง หรือการเรียนออนไลน์ หน้าจอ Retina ขนาด 10.9 นิ้วให้ภาพที่คมชัดและสีสันสดใส เหมาะสำหรับการรับชมคอนเทนต์มัลติมีเดียและการอ่านหนังสือ

หน่วยความจำของ Gen 10 มีให้เลือกสองขนาดคือ 64GB และ 256GB ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเก็บแอปพลิเคชัน รูปภาพ และไฟล์เอกสารพื้นฐาน โดยรุ่น 64GB เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานทั่วไปและจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นหลัก ส่วนรุ่น 256GB เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการดาวน์โหลดวิดีโอและเกมส์

RAM ขนาด 4GB ของ Gen 10 มอบประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการทำงานพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ การใช้งานโซเชียลมีเดีย การจดบันทึก หรือการดูวิดีโอ โดยไม่เกิดอาการกระตุก หรือหน่วงในการทำงาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอุปกรณ์ที่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน และรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการจดบันทึกและวาดภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยความแม่นยำและการตอบสนองที่รวดเร็ว

ที่สำคัญคือการรองรับ iPadOS เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ทันสมัยและการอัพเดทความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้อย่างครบครัน รวมถึงการทำงานแบบมัลติทาสก์และการจัดการหน้าจอที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ช่วยให้สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างสะดวก ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และฟีเจอร์ที่ครบครัน Gen 10 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการแท็บเล็ตคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่า

สรุป

  • หน้าจอ : Retina ขนาด 10.9 นิ้ว
  • ชิปประมวลผล : A14 Bionic
  • ความจุ (ROM) : 64GB และ 256GB
  • RAM : 4GB
  • กล้องหน้า : 12MP พร้อมฟีเจอร์ Center Stage
  • การเชื่อมต่อ : พอร์ต USB-C, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2
  • รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 และ Magic Keyboard Folio

สรุป เปรียบเทียบ iPad ทั้ง 3 รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับใคร?

เปรียบเทียบ-iPad-3-รุ่นล่าสุด-05.jpg

การเลือก iPad ให้เหมาะกับความต้องการของคุณจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งงบประมาณ วัตถุประสงค์การใช้งาน และความต้องการด้านประสิทธิภาพ ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาการใช้งานในระยะยาวและเลือกรุ่นที่มีสเปกเผื่อไว้สำหรับการใช้งานในอนาคต และจากการเปรียบเทียบ iPad ทั้ง 3 รุ่น แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยรุ่น Pro เหมาะสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดรุ่น Air เป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับผู้ใช้ระดับกลางที่ต้องการความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา ส่วน Gen 10 เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการแท็บเล็ตคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้

บทความที่น่าสนใจ