ในบทความนี้เราก็มาพูดคุยเกี่ยวกับเมาส์อีกแล้วนะครับ  ซึ่ง "เมาส์" สำหรับเหล่า เกมเมอร์ นักแข่ง นักกีฬา e-sport นอกจากจะเลือกเมาส์ที่ รูปแบบ น้ำหนัก สเปค ที่เข้ากับตัวเองแล้ว รูปแบบการจับเมาส์ ก็มีผลต่อการเล่นเกมเช่นเดียวกัน  

และในบทความนี้ จะพาไปรู้จักกับรูปแบบของการจับเมาส์ (Mouse Grip) ว่าเหมาะกับเกมแบบไหน แตกต่างกันยังไง และส่งผลอะไรบ้าง

โดยรูปแบบการจับเมาส์ 3 แบบ มีดังนี้:
1.    Plam Grip Style
2.    Claw Grip Style
3.    Fingertip Grip Style 

บริเวณที่สัมผัส
Palm Grip Style สำหรับวิธีแรกนี้เป็นรูปแบบการจับที่คนส่วนใหญ่จับกันอาจจะจับโดยไม่ทันตั้งตัว โดยรูปแบบการจับนั้น หลักง่าย ๆ ก็คือ บริเวณปลายนิ้วถึงข้อนิ้วและฝ่ามือจะสัมผัสกับเมาส์เต็มบริเวณเลยครับ

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน
การจับแบบ Palm Grip เป็นท่าที่สบายและธรรมชาติที่สุดเลยครับ เนื่องจากไม่มีการเกร็งหรือมีการเกร็งกล้ามเนื้อน้อย เหมาะกับคนที่มือค่อนข้างใหญ่กับเมาส์ที่ใหญ่ หรือคนที่ใช้เมาส์ขนาดพอดีกับมือ ซึ่งข้อดีของการจับเมาส์แบบ Palm ก็คือสบายครับ แต่ข้อเสียของการวางนิ้วแบบนี้ที่เมาส์อาจทำให้เราคลิกเมาส์ได้ช้าเล็กน้อย ยิ่งเป็นเกมที่ใช้การคลิกไว การที่นิ้วแนบอยู่กับปุ่มคลิก อาจจะไม่ถนัดเท่าไหร่ครับ 

บริเวณที่สัมผัส
Claw Grip Style เป็นรูปแบบการจับที่เหมือนกรงเล็บตามชื่อเลยครับ ในลักษณะการจับนั้นจะเป็นการใช้นิ้วจิกเล็กน้อยที่เมาส์ นิ้วเราจะโก่งขึ้นมาเล็กน้อย และบริเวณใต้มือจะสัมผัสกับเมาส์ครับ 

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน 
การจับแบบนี้ผมคิดว่าข้อดีของมันคือ สามารถทำให้เราขยับเมาส์ได้ไวและละเอียดมากขึ้น เนื่องจากการจับจะมีการเกร็งเล็กน้อย ต่างกันกับแบบ Palm ที่เป็นเหมือนการทาบลงไปที่บริเวณเมาส์เลย และเหมาะกับคนที่มือใหญ่กว่าเมาส์เล็กน้อยครับ แต่ตามมาด้วยข้อเสียคือ ในเมื่อการจับแบบนี้มีการเกร็งกล้ามเนื้อเล็กน้อย เมื่อใช้เป็นระยะเวลานานและต่อเนื่องอาจทำให้เมื่อยและปวดได้ แต่หากใครจับเมาส์ด้วยวิธีนี้มานาน แล้วไม่เมื่อย แปลว่านิ้วของคุณ ได้แข็งแกร่งขึ้นนั้นเองครับ ฮ่าา กล้ามเนื้อนิ้วอัพเกรด

บริเวณที่สัมผัส 
สำหรับการจับแบบแบบ Fingertip Grip Style จะไม่มีส่วนไหนของมือสัมผัสกับเมาส์เลยครับ จะเป็นการใช้นิ้วทั้ง 5 นิ้ว ประคองที่ตำแหน่งของเมาส์เหมือนกับการจับแบบอื่น ๆ ครับ 

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน 
การจับแบบนี้เหมาะกับคนที่ใช้เมาส์ขนาดเล็กกว่ามือมาก หรือคนตัวใหญ่ที่ขนาดมือใหญ่กว่าเมาส์ ข้อดีของการจับเมาส์แบบนี้ทำให้ควบคุมได้ละเอียดที่สุด เพราะเวลาเราขยับเมาส์ เราสามารถขยับเล็กน้อย ด้วยการงอนิ้วถางนิ้ว ต่างจากรูปแบบอื่นที่หากต้องการขยับเมาส์เล็กน้อยจะต้องใช้ทั้งข้อมือและนิ้ว ยิ่งเป็นรูปแบบการจับแบบ Palm อาจจะต้องขยับทั้งแขน แต่ข้อเสียก็คือจะตามมาด้วยอาการ...เมื่อย ที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อมากกว่าแบบ Claw เสียอีกครับ

อันนี้เป็นแถมนะครับ เพราะผมเคยได้เห็นโปรเพลย์เยอร์ที่ต่างประเทศของเกม CS:GO แต่ละคนก็มีการจับที่ประหลาดมาก ๆ แต่พอสังเกตดี ๆ มันก็คือ การปรับแต่ง เปลี่ยนแปลง มาจาก 3 รูปแบบหลัก ๆ นี้ ไปตามความถนัดของตัวเองนั้นเองไปดูได้ที่คลิปนี้เลยครับ 

ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับรูปแบบการจับเมาส์แบบต่าง ๆ สำหรับการเล่นเกม ทั้ง 3 แบบที่มีนั้นผมแทบจะไม่ได้บอกเลยว่า เหมาะกับเกมประเภทไหนหรือเหมาะกับใครเป็นพิเศษ บอกแค่เพียงข้อดีข้อเสียที่เห็นได้ชัดที่สุดครับ เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วนักเล่นเกมหรือเกมเมอร์ทุกคน จะมีรูปแบบการจับเมาส์ที่ตามความเคยชินและความถนัดที่สุดในเมาส์ที่เข้ากับตัวเองมากที่สุด  สรุปก็คือขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานนั้นเองครับ 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อใครหลาย ๆ คนนะครับ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย

บทความหน้าจะเกี่ยวกับอะไร ฝากติดตามด้วยนะครับ สำหรับบทความนี้ สวัสดีครับ