7 หูฟัง Earbuds 2024! ชี้เป้ารุ่นไหนน่าสนใจ ฟีเจอร์เด็ด !?
ในยุคที่ทุกอย่างถูกปรับมาเพื่อความสะดวกสบายและประโยชน์การใช้งานคอบโจทย์ผู้ใช้สูงสุด หูฟังแบบ Earbud ได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลาย ๆ คน ด้วยดีไซน์ที่ทำให้กระชับหู ฟังเสียงชัด แต่ยังคงไว้ซึ่งความสบาย ทำให้หูฟังประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ในปี 2024 นี้ แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ก็ได้เปิดตัวหูฟัง Earbud รุ่นใหม่ ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟีเจอร์น่าสนใจกว่าที่เคย สำหรับใครที่มีไอเดียว่าจะถอยหูฟัง Earbud ใหม่สักตัว แต่ยังไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี วันนี้เรามาแนะนำ 7 หูฟัง Earbud 2024 คุณภาพเสียงดี ฟังสบาย ตัวไหนน่าจับตามองบ้าง ไปดูกัน
ชี้เป้า 7 หูฟัง Earbud 2024 คุณภาพเสียงดี ฟังสบาย
Nothing Ear (2)
Nothing Ear (2) เป็นหูฟังจากแบรนด์น้องใหม่ที่กำลังมาแรง โดดเด่นด้วยดีไซน์โปร่งใส มินิมอล ที่เป็นเอกลักษณ์ แปลกตาไม่เหมือนใคร หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันในราคาที่คุ้มค่า ระบบ ANC สามารถลดเสียงรบกวนได้ถึง 40 dB ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากสำหรับหูฟังในราคานี้
คุณภาพเสียงของ Nothing Ear (2) อยู่ในระดับ Hi-Res Audio Wireless ให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจนและสมดุล สามารถปรับ EQ ได้ตามต้องการผ่านแอพ Nothing X ทำให้เราสามารถปรับแต่งเสียงให้ตรงกับรสนิยมของตัวเองได้
แบตเตอรี่ของ Nothing Ear (2) ใช้งานได้นานถึง 6.3 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมง ซึ่งถือว่ายาวนานมากในระดับราคานี้ นอกจากนี้ ยังรองรับการชาร์จไร้สายแบบ Qi ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในหูฟังราคานี้ ทำให้ Nothing Ear (2) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้
ราคา ประมาณ 5,490 บาท
Samsung Galaxy Buds 2 Pro
Samsung Galaxy Buds 2 Pro เป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานอุปกรณ์ Samsung โดยเฉพาะ แต่ก็สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Android อื่น ๆ ได้เหมือนกัน หูฟังรุ่นนี้โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียง Hi-Fi 24-bit ผ่าน Samsung Seamless Codec ที่ให้รายละเอียดเสียงสมจริง และคมชัดแบบสุด ๆ ที่สำคัญระบบ ANC ของ Galaxy Buds 2 Pro นั้นมีประสิทธิภาพสูง สามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก
มีฟีเจอร์ 360 Audio with Direct Multi-Channel ช่วยสร้างมิติเสียงรอบทิศทางที่สมจริง ตัวหูฟังมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 5.5 กรัมต่อข้าง สวมใส่สบายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังกันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX7 ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ทำให้ใช้งานได้แม้ในสภาพอากาศฝนตก แดดออก แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 18 ชั่วโมง พร้อมรองรับการชาร์จไร้สายแบบ Qi ด้วย
ราคา ประมาณ 6,990 บาท
Apple AirPods Pro (2nd Generation)
AirPods Pro รุ่นที่ 2 ยังคงครองใจสาวก iPhone ด้วยการผสมผสานระหว่างคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมและความสะดวกสบายในการใช้งาน หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation (ANC) ที่ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างน่าทึ่ง ในขณะเดียวกัน โหมด Transparency ก็ช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้อย่างชัดเจนเมื่อต้องการ
ด้านคุณภาพเสียง AirPods Pro (2nd Gen) ให้เสียงระดับ Hi-Fi ด้วยชิป H2 พร้อมรองรับ Spatial Audio with dynamic head tracking ที่สร้างมิติเสียงรอบทิศทางสมจริง นอกจากนี้ ยังกันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX4 ทำให้ใช้งานได้แม้ขณะออกกำลังกาย แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 6 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมง ที่สำคัญคือรองรับการชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe ซึ่งสะดวกสบายมาก
ราคา ประมาณ 8,990 บาท
Jabra Elite 10
Jabra Elite 10 เป็นหูฟังคุณภาพสูงที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันและดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย หูฟังรุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบ ANC แบบ Advanced Hybrid ที่สามารถปรับตัวอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ทำให้การตัดเสียงรบกวนเหมาะสมในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos และ Dolby Head Tracking ที่สร้างมิติเสียงรอบทิศทางแบบไดนามิก
ด้านคุณภาพเสียง Jabra Elite 10 ให้เสียงระดับ Hi-Res Audio ที่ครอบคลุมทุกย่านความถี่อย่างสมดุล เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว มีไมโครโฟน 6 ตัวพร้อมระบบลดเสียงลมรบกวน ทำให้สามารถใช้คุยได้ชัดเจนแม้อยู่ในที่ที่มีลมแรง ตัวหูฟังกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP57 ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งหลายรุ่น แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 27 ชั่วโมง พร้อมรองรับการชาร์จไร้สายแบบ Qi เช่นกัน
ราคา ประมาณ 9,500 บาท
Sony WF-1000XM5
Sony WF-1000XM5 เป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่ได้รับการยอมรับว่าระบบ ANC ของ Sony นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในที่สุดของวงการ สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้แต่เสียงความถี่ต่ำอย่างเสียงเครื่องบินหรือรถไฟใต้ดิน หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมชิปประมวลผลเสียง V2 ที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดทุกย่านความถี่ เบสหนัก เสียงกลางอิ่ม และเสียงแหลมใส
WF-1000XM5 รองรับ LDAC codec ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลเสียงคุณภาพสูงแบบไร้สาย ทำให้เราสามารถฟังเพลงคุณภาพสูงได้อย่างเต็มอรรถรส นอกจากนี้ ยังมีระบบ 360 Reality Audio ที่สร้างมิติเสียงรอบทิศทาง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตจริง ๆ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง ที่น่าสนใจคือมีฟีเจอร์ Speak-to-Chat ที่จะหยุดเพลงโดยอัตโนมัติเมื่อเราเริ่มพูดคุยกับคนรอบข้าง
ราคา ประมาณ 9,990 บาท
Sennheiser Momentum True Wireless 3
Sennheiser Momentum True Wireless 3 เป็นหูฟังคุณภาพสูงจากแบรนด์ระดับตำนานที่เน้นคุณภาพเสียงระดับ Audiophile หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 7 มม. ที่ให้คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ เสียงทุ้มลึก เสียงกลางชัดเจน และเสียงแหลมใส รองรับ aptX Adaptive codec ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการส่งข้อมูลเสียงคุณภาพสูงแบบไร้สาย ทำให้คุณสามารถฟังเพลงคุณภาพสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ระบบ ANC ของ Momentum True Wireless 3 สามารถปรับได้ตามความต้องการผ่านแอป Smart Control ทำให้เราสามารถควบคุมระดับการตัดเสียงรบกวนได้ตามสถานการณ์ นอกจากนี้ยั งมีโหมด Transparent Hearing ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้อย่างชัดเจนเมื่อต้องการ
ตัวหูฟังกันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX4 ใช้งานได้แม้ขณะออกกำลังกายเบาๆ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 28 ชั่วโมง ที่น่าสนใจคือสามารถปรับแต่ง EQ ได้อย่างละเอียดผ่านแอป Smart Control
ราคา ประมาณ 9,990 บาท
Bose QuietComfort Earbuds II
Bose QuietComfort Earbuds II เป็นหูฟังที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในตลาด มาพร้อมระบบ ANC ที่ปรับตัวอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี CustomTune ที่ปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับหูของผู้ใช้แต่ละคน ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดสำหรับเราโดยเฉพาะ
ด้านคุณภาพเสียง QuietComfort Earbuds II ให้เสียงระดับ Hi-Fi ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ที่ให้เสียงทุ้มลึก เสียงกลางชัดเจน และเสียงแหลมใสกระจ่าง โหมด Aware ช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้อย่างชัดเจนเมื่อต้องการ ตัวหูฟังกันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX4 ใช้งานได้แม้ขณะออกกำลังกาย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีแอป Bose Music ที่ช่วยให้เราปรับแต่งการใช้งานได้ตามต้องการ
ราคา ประมาณ 10,990 บาท
การเลือกหูฟังที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณของแต่ละคน สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ และหากเป็นไปได้ ควรลองฟังเสียงจริงก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้หูฟังที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด
หูฟัง Earbud ในปี 2024 มีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามความต้องการและงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไฮเอนด์อย่าง Sony WF-1000XM5 และ Bose QuietComfort Earbuds II ที่เน้นคุณภาพเสียงและระบบตัดเสียงรบกวนชั้นเลิศ หรือรุ่นที่เน้นความคุ้มค่าอย่าง Nothing Ear (2) ที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันในราคาที่จับต้องได้ ใครสนใจรุ่นไหนก็ลองเขาไปลองกันดูว่าถูกจริตการฟังเพลงของเราไหม ถ้าถูกใจ อยากซื้อก็ขอให้มั่นใจว่าซื้อแล้วมีคุณภาพดีแน่นอน เพราะเราคัดสรรมาให้ทุกคนแล้ว