5 ทริคเลือกหูฟังถูกใจ เลือกยังไงให้ถูกจริต และตรงกับสไตล์เพลง
เคยซื้อหูฟังมาแล้วผิดหวังไหม ? เสียงไม่อิ่ม ไม่ชัด หรือใช้งานไม่สะดวก นั่นอาจเป็นเพราะเราเลือกหูฟังไม่เหมาะกับสไตล์การฟังเพลงของเราเอง การเลือกหูฟังก็เหมือนการเลือกเพื่อนซี้คนหนึ่งเพราะเราต้องใช้แทบทุกวัน ต้องเข้ากันได้ดีทั้งการใช้งานและสไตล์เพลงที่เราชอบ วันนี้เรามาเปิดเทคนิคการเลือกหูฟังให้ตรงใจ ด้วย 5 ทริคต่อไปนี้ เพื่อให้เราได้หูฟังที่ใช่ พร้อมแนะนำรุ่นเด็ดที่น่าสนใจสำหรับแต่ละสไตล์ด้วย มาดูกันว่าวิธีไหนจะช่วยให้เราได้หูฟังคู่ใจกันบ้าง
เปิด 5 วิธีเลือกหูฟังให้ตรงกับไลฟ์สไตล์เพลง ฟังสนุก เต็มอรรถรส
รู้จักประเภทหูฟัง
ก่อนอื่นเลย เรามารู้จักประเภทของหูฟังกันก่อนดีกว่า มีอยู่ 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้
- หูฟังแบบครอบหู (Over-ear) : ตัวใหญ่ที่สุดในบรรดาหูฟังทั้งหลาย ครอบคลุมหูเราทั้งใบ ให้เสียงอิ่ม ๆ เต็ม ๆ แยกเสียงรบกวนได้ดี แต่ก็อาจจะหนักหน่อยนะ เหมาะกับการนั่งฟังเพลงที่บ้านหรือในสตูดิโอมากกว่า
- หูฟังแบบออนเอียร์ (On-ear) : ขนาดกำลังดี วางทับบนหูเรา เบากว่าแบบครอบหู พกพาง่ายกว่า แต่อาจจะกดหูเรานิดหน่อยถ้าใส่นาน ๆ เหมาะกับการฟังเพลงนอกบ้าน หรือทำงานในออฟฟิศ
- หูฟังแบบอินเอียร์ (In-ear) : เล็กที่สุด สอดเข้าไปในรูหู น้ำหนักเบา พกพาสะดวกสุด ๆ เหมาะมากสำหรับออกกำลังกายหรือเดินทาง แต่อาจจะให้เสียงไม่อิ่มเท่าสองแบบแรก
รู้จักความถี่เสียง
เรื่องนี้อาจจะฟังดูเทคนิคไปหน่อย แต่ไม่ยากเลยจริง ๆ การตอบสนองความถี่เสียงก็คือช่วงเสียงที่หูฟังสามารถเล่นได้นั่นเอง ปกติจะอยู่ในช่วง 20 Hz - 20 kHz ซึ่งเป็นช่วงที่หูคนเราได้ยินพอดี แต่บางรุ่นอาจจะมีช่วงกว้างกว่านี้ด้วย
โดยจะสามารถแบ่งย่านความถี่แบบง่าย ๆ ได้ดังนี้
- เสียงต่ำ (Bass) : ต่ำกว่า 250 Hz - คือเสียงกลองใหญ่ เบส หรือเสียงตึ้บ ๆ
- เสียงกลาง (Mid) : 250 Hz - 4 kHz - ส่วนใหญ่เป็นเสียงร้อง เสียงกีตาร์
- เสียงสูง (Treble) : สูงกว่า 4 kHz - เสียงฉาบ เสียงแหลม ๆ ทั้งหลาย
แต่ละแนวเพลงก็ต้องการการตอบสนองความถี่ที่ต่างกันออกไป ได้แก่
- เพลงร็อก เมทัล ฮิปฮอป : ต้องการเสียงเบสที่หนักแน่น กระแทกหัวใจ ควรเลือกหูฟังที่เน้นเสียงเบสชัด ๆ
- เพลงคลาสสิก แจ๊ส : ต้องการความสมดุลของทุกย่านเสียง ควรเลือกหูฟังที่เล่นได้ทุกย่านเสียงอย่างเท่าเทียมกัน
- เพลงป๊อป อิเล็กทรอนิกส์ : ต้องการเสียงกลางและสูงที่คมชัด สดใส ควรเลือกหูฟังที่เน้นย่านความถี่นี้
เข้าใจค่าความต้านทาน (Impedance)
ค่าความต้านทานนี่สำคัญไม่แพ้กันเลย มันสามารถบอกว่าหูฟังต้องการกำลังไฟมากแค่ไหน หน่วยเป็นโอห์ม (Ω) ยิ่งค่าสูง ยิ่งต้องการกำลังไฟเยอะตามไปด้วย
- หูฟังที่มีค่าความต้านทานต่ำ (ต่ำกว่า 32Ω) : เหมาะกับการใช้กับอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนหรือเครื่องเล่น MP3 เพราะใช้ไฟน้อย เสียงดังพอ
- หูฟังที่มีค่าความต้านทานสูง (มากกว่า 100Ω) : มักต้องใช้กับแอมป์หูฟังเพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด เหมาะกับนักฟังเพลงจริงจังที่มีชุดเครื่องเสียงดี ๆ
ถ้าเราฟังเพลงจากมือถือเป็นหลัก ก็เลือกหูฟังที่มีค่าความต้านทานต่ำ ๆ ไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องพกแอมป์ติดตัวไปด้วย แต่ถ้าเป็นสายออดิโอไฟล์ตัวจริง มีชุดเครื่องเสียงเทพ ๆ หูฟังที่มีค่าความต้านทานสูงอาจจะเหมาะกว่า
เลือกระบบไดรเวอร์ให้เป็น
ไดรเวอร์ก็คือตัวที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นเสียงนั่นเอง มีหลายแบบ เลือกระบบไดรเวอร์ให้เหมาะกับแนวเพลงที่เราชอบฟัง จะช่วยให้เราได้อรรถรสในการฟังเพลงมากขึ้นเยอะเลย โดยแต่ละแบบให้เสียงที่ต่างกัน ดังนี้
- ไดนามิก (Dynamic) : ใช้กันเยอะที่สุด ให้เสียงเบสที่หนักแน่น กระแทกใจ เหมาะกับเพลงร็อก ป๊อป ฮิปฮอป ราคาไม่แพงมาก
- บาลานซ์อาร์มาเจอร์ (Balanced Armature) : ให้เสียงกลางและสูงที่ชัดใส ละเอียด เหมาะกับเพลงที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น คลาสสิก แจ๊ส มักใช้ในหูฟังแบบอินเอียร์
- แพลนาร์แมกเนติก (Planar Magnetic) : ให้เสียงที่เที่ยงตรง กว้าง และมีรายละเอียดสูงมาก เหมาะสำหรับออดิโอไฟล์ตัวจริง แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย
พิจารณาฟีเจอร์เสริม
นอกจากคุณภาพเสียงแล้ว ฟีเจอร์เสริมก็มีส่วนช่วยให้การฟังเพลงสนุกขึ้น เช่น
- การตัดเสียงรบกวน (Noise Cancellation) : ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก เหมาะสำหรับการฟังเพลงในที่ที่มีเสียงดัง เช่น บนเครื่องบินหรือรถไฟ
- การเชื่อมต่อไร้สาย : สะดวกสบาย ไม่มีสายรุงรัง เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหรือเดินทาง
- ไมโครโฟนในตัว : สะดวกสำหรับการรับสายโทรศัพท์
- แอหปปรับแต่งเสียง : ช่วยให้คุณปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการ
แนะนำหูฟังสำหรับแต่ละไลฟ์สไตล์และแนวเพลงที่ชอบ
- สำหรับคนชอบฟังเพลงร็อก เมทัล
แนะนำ Sony WH-1000XM4 - หูฟังครอบหูไร้สายที่มีเสียงเบสหนักแน่น ให้พลังเสียงที่เต็มอิ่ม เหมาะกับเพลงร็อกและเมทัล มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีสุด ๆ ใส่สบายแม้ฟังนาน ๆ
- สำหรับคนชอบฟังเพลงคลาสสิก แจ๊ส
แนะนำ Sennheiser HD 660 S - หูฟังครอบหูแบบเปิดด้านหลัง ให้ Stage เสียงกว้าง เหมาะกับการฟังเพลงคลาสสิกและแจ๊ส ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้ดีเยี่ยม ทำให้ได้ยินเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นชัดเจน - สำหรับคนชอบฟังเพลงป๊อป อิเล็กทรอนิกส์
แนะนำ Beats Studio Buds - หูฟังอินเอียร์ไร้สาย ให้เสียงสดใส มีพลัง เหมาะกับเพลงป๊อปและอิเล็กทรอนิกส์ ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก มีระบบตัดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับฟังเพลงระหว่างเดินทาง
- สำหรับคนรักออดิโอไฟล์
แนะนำ Audeze LCD-X - หูฟังครอบหูระดับไฮเอนด์ ใช้ไดรเวอร์แบบแพลนาร์แมกเนติก ให้เสียงที่เที่ยงตรง มีรายละเอียดสูง เหมาะสำหรับการฟังเพลงทุกแนว โดยเฉพาะเพลงที่มีการบันทึกเสียงคุณภาพสูง ๆ
- สำหรับคนชอบออกกำลังกาย
แนะนำ Jabra Elite Active 75T - หูฟังอินเอียร์ไร้สายที่ออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ กันน้ำกันเหงื่อ ใส่กระชับไม่หลุดง่าย ให้เสียงที่มีพลัง กระตุ้นการออกกำลังกาย มีโหมดฟังเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัยเวลาวิ่งกลางแจ้ง
วิธีเลือกหูฟังให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และสไตล์การฟังเพลงของเราไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าเรารู้จักดูปัจจัยสำคัญ ๆ ที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ ทั้งประเภทของหูฟัง การตอบสนองความถี่เสียง ค่าความต้านทาน ระบบไดรเวอร์ และฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ การได้หูฟังที่ใช่จะช่วยให้เราสนุกกับการฟังเพลงมากขึ้น ได้ดื่มด่ำกับเสียงดนตรีอย่างเต็มที่ ไม่ว่าเราจะชอบฟังเพลงแนวไหน หรือมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็มีหูฟังที่เหมาะกับเราแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมนะว่าการฟังเพลงเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว ถ้ามีโอกาสควรลองฟังหูฟังกับเพลงโปรดเราทุกครั้งก่อนซื้อดีกว่า จะได้แน่ใจว่าเราได้หูฟังที่ถูกใจ ไม่ต้องเสี่ยงผิดหวัง