ใครที่เป็นสายชื่นชอบเมาส์น้ำหนักเบา Glorious เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสกัน โดยเฉพาะลูกเล่น “เจาะลายรวงผึ้ง” ที่ถือว่าเป็นซิกเนอเจอร์ของแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้!

แล้วลายรวงผึ้งสำคัญยังไง?

อันดับแรก แพทเทิร์นของรวงผึ้งประกอบขึ้นจากรูป 6 เหลี่ยม ซึ่งทางวิทยาศาสตร์เขาตั้งข้อสังเกตกันมาแล้วว่า โครงสร้างหรือลวดลายในธรรมชาติมักจะประกอบขึ้นจากจากรูป 6 เหลี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเกล็ดหิมะ กระดองเต่า เลนส์ตาของแมลงปอ หรือแนวหินภูเขาไฟ ทั้งหมดนี้ประกอบขึ้นจากรูป 6 เหลี่ยมทั้งสิ้น และเป็นโครงสร้างที่มีความสมมาตรและแข็งแรง นี่ก็คือที่มาอย่างหนึ่งของลวดลายรวงผึ้งบนเมาส์แบรนด์นี้

และความแข็งแรงนี้เอง ก็ทำให้หลังการเจาะพื้นผิวยังคงแข็งแรงอยู่ สามารถลดน้ำหนักของวัสดุลงไปได้ ทำให้เมาส์มีความคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลพลอยได้เป็นความโปร่งเบา ทำให้เกิดการระบายอากาศได้ดี จึงเป็นโปรดักดักต์ที่น่าสนใจสำหรับคนที่มือชื้นง่าย เหงื่อออกมือบ่อย จนไปถึงคนที่ใช้งานเมาส์เป็นเวลานานๆ จนเห็นเป็นรอยเงาบนเมาส์

นอกจากนี้ โครงเมาส์ยังมีการออกแบบให้เหมาะกับสรีระของอุ้งมือ (ergonomic) มีให้เลือก 2 ขนาด

• ขนาด D (regular) สำหรับคนฝ่ามือกว้างหรือนิ้วยาว
• ขนาด D- สำหรับฝ่ามือเล็ก

สามารถดูขนาดเปรียบเทียบของตัวเมาส์ทั้ง 2 ขนาดได้ตามตารางต่อไปนี้ :

มาพร้อมกับปุ่มกดด้านข้าง รวมแล้วทั้งสิ้น 6 ปุ่ม รองรับการใช้งานถึง 80 ล้านคลิก โดยแต่ละปุ่มสามารถตั้งค่าเองได้หมดผ่าน Glorious CORE

สามารถดาวน์โหลดได้จากลิ้งก์หน้าเว็บไซต์ https://www.gloriousgaming.com/pages/glorious-core

ซึ่งเมื่อเข้าไปก็จะสามารถปรับตั้งค่า DPI, POD, Polling Rate รวมถึงไฟเมาส์ได้อีกด้วย

ค่า DPI สูงสุดอยู่ที่ 19,000 และ polling rate อยู่ที่ 1,000Hz (1ms) ถือว่าเพียงพอสำหรับการเล่นเกม

ส่วนพอร์ตชาร์จเป็น USB-C ใช้ได้นาน 71 ชั่วโมง ซึ่งสายชาร์จนี้จะเสียบชาร์จไปเล่นไปก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกในการใช้งานของแต่ละคน

รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี ขาวและดำ พื้นผิวด้าน (matte)