เทียบ MacBook Air vs MacBook Pro ซื้อรุ่นไหนดี ?

ใครที่กำลังแพลนจะซื้อ MacBook เครื่องใหม่ เชื่อว่าคำถามที่หลายคนมีคำถามในใจคือ เลือกอะไรดีระหว่าง MacBook Air vs MacBook Pro ? แล้วสองรุ่นนี้ต่างกันยังไงบ้าง ? ถ้าไม่นับเรื่องความเร็วแรง ทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันอยู่บ้าง บางคนอาจจะอยากทราบว่ารุ่นไหนที่จะเหมาะกับการใช้งานของตัวเอง และคุ้มค่าคุ้มราคาในระยะยาว ในบทความนี้เราจะพามาเปรียบเทียบกันว่า ทั้งสองรุ่นนี้ โดยภาพรวมต่างกันยังไง รุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ที่จะทำให้เราเลือกซื้อ MacBook เครื่องใหม่ได้คุ้มค่าที่สุด

MacBook Air vs MacBook Pro ต่างกันยังไง ?

ประสิทธิภาพการทำงาน

ในปลายปี 2024 นี้MacBook Pro รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับชิปประมวลผล M4 ที่มีให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่ M4 ธรรมดา, M4 Pro และ M4 Max โดยชิปรุ่นท็อปสุดอย่าง M4 Max สามารถทำงานได้เร็วกว่ารุ่น M1 Max ถึง 3.5 เท่า ในขณะที่รุ่นธรรมดาก็ยังทำงานเร็วกว่า M3 ถึง 1.3 เท่าในงานทั่วไป นอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งขนาดหน้าจอ 14 นิ้วและ 16 นิ้ว พร้อม RAM ที่สามารถอัปเกรดได้สูงถึง 48GB

ส่วน MacBook Air รุ่นล่าสุดมาพร้อมชิป M3 ซึ่งถึงแม้จะไม่ทรงพลังเท่า M4 แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป มีให้เลือกทั้งขนาด 13 นิ้วและ 15 นิ้ว โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่บางเบา น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แม้จะมีพอร์ตเชื่อมต่อน้อยกว่าและไม่มีพัดลมระบายความร้อน แต่ก็ทำให้ตัวเครื่องบางลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น

พอร์ตเชื่อมต่อ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Apple พยายามลดจำนวนพอร์ตเชื่อมต่อเพื่อให้เครื่องบางลง แต่ด้วยการเพิ่มพอร์ต MagSafe สำหรับชาร์จในรุ่นปี 2022 ทำให้ MacBook Air มีพอร์ต USB ว่างสำหรับใช้งานทั้ง 2 พอร์ตโดยไม่ต้องเสียพอร์ตไปกับการชาร์จ

MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วมาพร้อมกับพอร์ตที่หลากหลายกว่า ประกอบด้วยพอร์ต Thunderbolt/USB 4 จำนวน 3 พอร์ต, พอร์ต MagSafe สำหรับชาร์จ, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต HDMI และช่องเสียบการ์ด SDXC ทำให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายโดยไม่ต้องหาอะแดปเตอร์มาเสียบเพิ่ม

ในด้านการเชื่อมต่อ MacBook Pro มาพร้อมกับพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 3 พอร์ต ช่องเสียบการ์ด SD และพอร์ต HDMI ทำให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะคนที่ทำงานสายตัดต่อวิดีโอหรือช่างภาพที่ต้องมีการ Transfer ไฟล์ขนาดใหญ่อยู่ตลอด ที่สำคัญคือมีระบบระบายความร้อนแบบพัดลม ทำให้สามารถทำงานหนักได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหาเรื่องความร้อน

หน่วยความจำ (RAM) และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

ในเดือนตุลาคม 2024 Apple ได้ปรับให้ MacBook ทุกรุ่นมาพร้อมกับ RAM มาตรฐานที่ 16GB ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะแต่เดิม MacBook Air มี RAM เริ่มต้นเพียง 8GB เท่านั้น นอกจากนี้ MacBook Air รุ่นที่ใช้ชิป M2 และ M3 ยังสามารถอัปเกรด RAM ได้สูงสุดถึง 24GB แต่หากต้องการ RAM มากกว่านี้ จำเป็นต้องเลือก MacBook Pro รุ่นที่ใช้ชิป M4 Pro ที่รองรับ RAM สูงสุด 48GB หรือ M4 Max ที่รองรับได้ถึง 128GB

สำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล MacBook Air ทั้งรุ่น 13 นิ้วและ 15 นิ้วมีตัวเลือกเริ่มต้นที่ 256GB ในขณะที่ MacBook Pro เริ่มต้นที่ 512GB มีข้อสังเกตสำหรับรุ่น 256GB คือความเร็วในการอ่านข้อมูลอาจช้ากว่าถึง 50% และการเขียนข้อมูลช้ากว่า 30% เมื่อเทียบกับรุ่นที่มีความจุมากกว่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบหากคุณใช้แอพพลิเคชั่นที่ต้องเข้าถึง SSD บ่อยครั้ง ดังนั้น หากมีงบประมาณเพียงพอ แนะนำให้เลือกรุ่น 512GB จะดีกว่า

แบตเตอรี่และการชาร์จ

MacBook รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป Apple Silicon มีประสิทธิภาพด้านแบตเตอรี่ที่โดดเด่นกว่ารุ่นที่ใช้ชิป Intel อย่างเห็นได้ชัด โดย MacBook Air สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 18 ชั่วโมง ในขณะที่ MacBook Pro ทั้งรุ่น 14 นิ้วและ 16 นิ้วใช้งานได้นานถึง 22 ชั่วโมง จากการทดสอบจริงพบว่า MacBook Air รุ่น 15 นิ้วที่ใช้ชิป M3 สามารถใช้งานได้นานถึง 19 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเกินคำเคลมของ Apple

ราคาและความคุ้มค่า

MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 57,000 บาท และรุ่น 16 นิ้ว เริ่มต้นที่ประมาณ 89,000 บาท ในขณะที่ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 35,000 บาท และรุ่น 15 นิ้วเริ่มต้นที่ประมาณ 39,000 บาท ความแตกต่างด้านราคาที่ค่อนข้างมากนี้ ก็สะท้อนถึงประสิทธิภาพและความสามารถที่ก็แตกต่างกันพอสมควร

สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการพลังประมวลผลมาก MacBook Air ถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก เพราะราคาที่ถูกกว่าแต่ยังสามารถทำงานพื้นฐานทั่วไปได้ดีเยี่ยม แถมยังยังพกพาสะดวกและประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับนักศึกษาและคนทำงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง

MacBook Pro แม้จะมีราคาสูงกว่า และในงานทั่วไปอาจไม่ได้แตกต่างจาก MacBook Air มากนัก แต่ในงานที่ต้องใช้ CPU อย่างหนักและต่อเนื่อง เช่น การเรนเดอร์ภาพและวิดีโอ จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังได้หน้าจอที่ดีกว่า พอร์ต HDMI และช่องเสียบการ์ด SDXC เพิ่มเติม ที่ราคาแพงกว่า MacBook Air รุ่น 15 นิ้วที่ใช้ชิป M3 และมี SSD ขนาด 512GB เพียงประมาณ 3,500 บาท) ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

เลือกรุ่นไหนดี  MacBook Air vs MacBook Pro

สำหรับใครที่ทำวานสายกราฟิกดีไซเนอร์ โปรดิวเซอร์เพลง ช่างภาพ หรือวิดีโอ MacBook Pro คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะสามารถรองรับการทำงานหนัก ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเรนเดอร์วิดีโอ 4K การทำงานกราฟิก 3D หรือการพัฒนาแอพ iOS ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ความสามารถในการอัปเกรด RAM สูงและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพทำให้ทำงานได้ราบรื่นไม่สะดุด

ในทางกลับกัน MacBook Air จะเหมาะสำหรับนักศึกษาและคนทำงานออฟฟิศทั่วไป ที่ใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างการเข้าเว็บไซต์ ดูวิดีโอ Netflix หรือทำงานเอกสารผ่าน Microsoft Office ด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาและแบตเตอรี่ที่อึด ทำให้พกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้สะดวก และด้วย RAM ขนาด 16GB ที่มาเป็นมาตรฐาน ก็เพียงพอสำหรับการทำงานหลายโปรแกรมพร้อมกันได้อย่างคล่องตัว

MacBook Air vs MacBook Pro ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ทั้ง MacBook Pro และ MacBook Air ต่างก็เป็นแล็ปท็อปคุณภาพสูงที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบนิเวศของ Apple ได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, AirPods หรือ Apple Watch ด้วยฟีเจอร์อย่าง Handoff ที่ช่วยให้สลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น การตัดสินใจเลือกซื้อจึงควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานและงบประมาณเป็นหลัก เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานของเราเองมากที่สุด