ชาร์จไว ทำให้แบตเสื่อมจริงไหม

     วันนี้เรามาคุยกันถึงเรื่องของอุปกรณ์ติดบ้านของใครหลายคนอย่างหัวชาร์จไว ที่มาพร้อมนวัตกรรมชาร์จไว หรือที่เรียกกันว่า Fast Charging กันดีกว่า แต่ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่บ้าง ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าการชาร์จแบบเร็วนี่แหละ ทำให้แบตเตอรี่ของเราพังไวขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่  วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันว่า นวัตกรรมชาร์จไว ทำให้แบตเสื่อมจริงไหม แล้วถ้าใช้แล้วจะมีผลกระทบอะไรบ้าง มาดูกันเลย!

 

นวัตกรรมชาร์จไว คืออะไร

     ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับนวัตกรรมชาร์จไวกันก่อนดีกว่า นวัตกรรมชาร์จไว เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราสามารถชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้เร็วกว่าการชาร์จแบบธรรมดาหลายเท่าตัว โดยใช้กำลังไฟที่สูงกว่าปกติ ทำให้เราสามารถชาร์จมือถือจาก 0% เป็น 50% หรือมากกว่านั้นได้ในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งสะดวกมากๆ สำหรับคนที่เร่งรีบหรือใช้งานมือถือหนักๆ

นวัตกรรมชาร์จไวในปัจจุบัน

     ปัจจุบันนี้ นวัตกรรมชาร์จไวได้พัฒนาไปไกลมาก มีหลายแบรนด์ที่พัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จเร็วของตัวเอง เช่น

• Qualcomm Quick Charge เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันแพร่หลายในมือถือ Android หลายๆ รุ่น
• USB Power Delivery (USB-PD) มาตรฐานการชาร์จเร็วที่ใช้กันทั่วไป รวมถึงใน iPhone รุ่นใหม่ๆ
• OnePlus Warp Charge เทคโนโลยีชาร์จเร็วของ OnePlus
• Xiaomi HyperCharge เทคโนโลยีชาร์จไวล่าสุดจาก Xiaomi 

นวัตกรรมชาร์จไว ทำให้แบตเสื่อมจริงไหม ?

     มีคนกังวลว่า การชาร์จเร็วแบบนี้จะทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้นไหม? คำตอบคือ มันก็มีผลบ้าง แต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

นวัตกรรมชาร์จไว ส่งผลต่อแบตเตอรี่อย่างไร ?

• ความร้อนที่เพิ่มขึ้น เมื่อเราใช้นวัตกรรมชาร์จไว ก็จะมีกระแสไฟฟ้าไหลเข้าแบตเตอรี่มากขึ้น ซึ่งก็ทำให้เกิดความร้อนมากขึ้นด้วย ความร้อนนี่แหละที่อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้ แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะมือถือรุ่นใหม่ๆ มักจะมีระบบจัดการความร้อนที่ดี ช่วยลดผลกระทบนี้ได้เยอะเลยล่ะ
• การเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เร็วขึ้นเล็กน้อย จริงๆ แล้ว แบตเตอรี่ทุกก้อนก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว การใช้นวัตกรรมชาร์จไวอาจทำให้เสื่อมเร็วขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ถ้าเทียบกับความสะดวกที่ได้รับ ก็ถือว่าคุ้มค่านะ
• ความจุของแบตเตอรี่ลดลงเร็วกว่าปกติ ผลกระทบในระยะยาว ถ้าใช้นวัตกรรมชาร์จไวเป็นประจำ ในระยะยาวอาจทำให้ความจุของแบตเตอรี่ลดลงเร็วกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เห็นผลชัดเจนมากนัก อาจจะสังเกตได้ว่าแบตหมดเร็วขึ้นนิดหน่อยหลังจากใช้งานไปสักพักใหญ่ๆ
  
  

แล้วเราควรใช้หัวชาร์จไวดีไหม ?

     คำตอบคือ ใช้ได้เลย แต่ก็ควรใช้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เพราะข้อดีของนวัตกรรมชาร์จไวนั้นมีเยอะมากกว่าข้อเสียทั้งประหยัดเวลา สะดวกสบาย รองรับอุปกรณ์หลากหลาย  โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องใช้มือถือกันตลอดเวลา การที่สามารถชาร์จได้เร็วๆ ก็ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเยอะเลย

 

วิธีใช้หัวชาร์จไวอย่างถูกต้อง

• หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อน พยายามชาร์จในที่อุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนเกินไป เช่น อย่าวางมือถือกลางแดดแล้วชาร์จ หรือชาร์จขณะเล่นเกมหนักๆ เพราะความร้อนจะสูงมาก
• ไม่จำเป็นต้องชาร์จเต็ม 100% ทุกครั้ง จริงๆ แล้วการรักษาระดับแบตไว้ที่ 20-80% ช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการชาร์จ ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และรักษาประสิทธิภาพได้ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้เต็ม 100% ทุกครั้ง
• ใช้หัวชาร์จไวเมื่อจำเป็น ถ้าไม่รีบ ก็ชาร์จแบบปกติไปเลย แต่ถ้าต้องการความเร็ว ค่อยใช้นวัตกรรมชาร์จไวก็ได้
• อย่าปล่อยให้แบตหมดจนเกลี้ยง พยายามอย่าให้แบตเหลือ 0% บ่อยๆ เพราะเหมือนกับการทำร้ายโครงสร้างภายในของแบตเตอรี่ ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และประสิทธิภาพลดลงเร็วกว่าปกติ ซึ่งไม่ดีกับแบตเตอรี่ในระยะยาว

     สรุปชาร์จไว ทำให้แบตเสื่อมจริงไหม ? ตอบแบบตรงๆ เลยก็คือ อาจจะทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากอย่างที่หลายคนกังวลกัน ถ้าเราใช้อย่างถูกวิธีและระมัดระวังนิดหน่อย ก็สามารถใช้นวัตกรรมชาร์จไวได้อย่างสบายใจ ข้อดีของนวัตกรรมชาร์จไวนั้นมีมากกว่าข้อเสียเยอะ โดยเฉพาะความสะดวกสบายที่เราได้รับ การที่สามารถชาร์จมือถือได้เร็วๆ ในยุคที่เราต้องพึ่งพามือถือกันมากๆ นั้นถือเป็นประโยชน์ที่คุ้มค่ามากทีเดียว