• สาระน่ารู้
  • ล่าสุด

เทคโนโลยีชาร์จไว คืออะไร มีกี่แบบ ใช้กับอุปกรณ์อะไรได้บ้าง

โพสต์เมื่อ 2 Oct 2024
by Utech 685 Views
wysiwyg/1_80.jpg

     วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ อย่างการชาร์จแบต แต่หลายคนอาจจะแค่เคยได้ยิน แต่ไม่ได้เข้าใจมากนัก นั่นก็คือระบบ ชาร์จไว หรือนวัตกรรมชาร์จไวนั่นเอง ใครที่เคยประสบปัญหาแบตหมดกลางวันแล้วต้องรีบชาร์จแบบด่วนๆ คงจะรู้ดีว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์แค่ไหน แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ระบบชาร์จไว มันคืออะไรกันแน่ มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับอุปกรณ์อะไร แล้วมีอะไรที่เราควรรู้เกี่ยวกับ ระบบชาร์จไว อีกบ้าง เรามาไขข้อข้องใจไปด้วยกัน

ระบบชาร์จไว คืออะไร

     ระบบชาร์จไว หรือที่เรียกกันว่า Fast Charge นั้น เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ต่างๆ ได้เร็วกว่าการชาร์จแบบปกติหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในช่วงแรกของการชาร์จ

     ลองนึกภาพง่ายๆ ว่าเรากำลังเติมน้ำใส่ถังน้ำขนาดใหญ่ ปกติแล้วเราก็จะค่อยๆ เติมน้ำทีละนิด เพื่อไม่ให้น้ำล้นออกมา แต่ถ้าเรามีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราเติมน้ำได้เร็วขึ้นโดยไม่ล้น นั่นแหละคือหลักการของ ระบบชาร์จไว 

     แต่ทำไมถึงต้องมี ระบบชาร์จไว? ก็เพราะว่าในยุคที่เราใช้สมาร์ทโฟนกันแทบจะตลอดเวลา แบตเตอรี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องเจอ ไหนจะต้องเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป วิดีโอคอล แบตหมดเมื่อไหร่ก็ทำเอาหลายคนว้าวุ่น ระบบชาร์จไวจึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด

มาตรฐานระบบชาร์จไว มีกี่แบบ

     ทีนี้มาดูกันว่า ระบบชาร์จไว นั้นมีกี่แบบกันบ้าง จริงๆ แล้วมีหลายแบบมากเลย แต่เราจะมาดูกันแบบคร่าวๆ ที่พบเห็นได้บ่อยในท้องตลาด ดังนี้

 

wysiwyg/2_67.jpg

Quick Charge (QC)

     เทคโนโลยีจาก Qualcomm ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon ปัจจุบันมีหลายเวอร์ชั่น ตั้งแต่ QC 2.0, 3.0, 4.0 ไปจนถึง 5.0 โดยแต่ละรุ่นก็จะมีความเร็วในการชาร์จที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ

  • เหมาะกับ: สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon
  • ตัวอย่างอุปกรณ์: Samsung Galaxy รุ่นเก่า, LG, HTC, Xiaomi บางรุ่น
wysiwyg/3_67.jpg

USB Power Delivery (USB-PD) 

     เป็นมาตรฐานการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย USB Implementers Forum ใช้กันแพร่หลายในอุปกรณ์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Nintendo Switch

  • เหมาะกับ: อุปกรณ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงโน้ตบุ๊ก
  • ตัวอย่างอุปกรณ์: iPhone, iPad, MacBook, Google Pixel, Nintendo Switch
wysiwyg/4_61.jpg

SuperVOOC (OPPO) 

จากแบรนด์ OPPO ด้วยระบบ SuperVOOC 4.0 (125W) สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh จาก 0% เป็น 100% ในเวลาประมาณ 20 นาที หรือ SuperVOOC 5.0 (240W) เทคโนโลยีล่าสุด สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh จาก 0% เป็น 100% ในเวลาเพียง 9 นาที

  • เหมาะกับ: สมาร์ทโฟน OPPO และ OnePlus บางรุ่น
  • ตัวอย่างอุปกรณ์: OPPO Find X5 Pro, OnePlus 10 Pro
wysiwyg/5_30.jpg

SuperCharge (Huawei) 

     จากแบรนด์ Huawei SuperCharge Turbo 100W ชาร์จแบตเตอรี่ 4,000 mAh จาก 0% เป็น 100% ในเวลาประมาณ 20 นาที และ SuperCharge 200W ล่าสุดสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,000 mAh จาก 0% เป็น 100% ในเวลาเพียง 10 นาที

  • เหมาะกับ: สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Huawei
  • ตัวอย่างอุปกรณ์: Huawei P40 Pro, Mate 40 Pro
wysiwyg/6_21.jpg

Super Fast Charging (Samsung)

     เทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่ Samsung พัฒนาขึ้นสำหรับอุปกรณ์ของตัวเอง รองรับการชาร์จที่ 25W และ 45W ชาร์จแบตเตอรี่ 4,500 mAh จาก 0% เป็น 100% ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้มาตรฐาน USB Power Delivery (PD) และ Programmable Power Supply (PPS)

  • เหมาะกับ: สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Samsung รุ่นใหม่
  • ตัวอย่างอุปกรณ์: Samsung Galaxy S21, Galaxy Tab S7

7 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ระบบชาร์จไว 

  • ความร้อนคือศัตรูตัวฉกาจ เรื่องแรกที่ต้องรู้เลยก็คือ การชาร์จเร็วนั้นทำให้เกิดความร้อนมากกว่าการชาร์จปกติ ซึ่งความร้อนนี่แหละที่เป็นตัวทำลายแบตเตอรี่ในระยะยาว ดังนั้น ถ้าเราใช้ ระบบชาร์จไว บ่อยๆ ก็อาจทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะผู้ผลิตก็มีระบบป้องกันความร้อนมาให้แล้ว แต่ถ้าจะให้ดี ลองหลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนจัด หรือใช้เคสหนาๆ ขณะชาร์จ
  • ไม่ใช่ว่าจะเร็วตลอดไป ระบบชาร์จไว จะทำงานได้ดีที่สุดในช่วงแรกของการชาร์จ เช่น จาก 0-50% หรือ 0-80% แต่พอแบตใกล้เต็ม ความเร็วในการชาร์จจะลดลงเพื่อป้องกันความเสียหายต่อแบตเตอรี่ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมบางครั้งเราอาจรู้สึกว่าช่วงท้ายๆ ของการชาร์จนั้นช้าลงนั่นเอง
  • อุปกรณ์ชาร์จต้องรองรับด้วย ไม่ใช่แค่ตัวเครื่องที่ต้องรองรับ ระบบชาร์จไวแต่อุปกรณ์ชาร์จก็ต้องรองรับด้วย ทั้งหัวชาร์จและสายชาร์จ ถ้าใช้อุปกรณ์ที่ไม่รองรับ ก็จะไม่ได้ความเร็วในการชาร์จตามที่ต้องการ เช่น ถ้าเราใช้หัวชาร์จ 5W กับมือถือที่รองรับ 65W ก็จะชาร์จได้แค่ 5W เท่านั้นเอง
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ตลอดเวลา แม้ว่า ระบบชาร์จไว จะสะดวกมาก แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตลอดเวลา ถ้าเราพอมีเวลาพอ การชาร์จแบบปกติก็ยังเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ในระยะยาว
  • แต่ละแบรนด์มีเทคโนโลยีต่างกัน แม้ว่าหลักการพื้นฐานของ ระบบชาร์จไว จะคล้ายกัน แต่แต่ละแบรนด์ก็มีเทคโนโลยีและวิธีการจัดการที่แตกต่างกันไป บางแบรนด์อาจเน้นความเร็วสูงสุด บางแบรนด์อาจเน้นความปลอดภัยและการรักษาอายุแบตเตอรี่ ดังนั้น อย่าแปลกใจถ้าคุณเห็นว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นชาร์จเร็วกว่ารุ่นอื่นๆ ทั้งๆ ที่กำลังวัตต์เท่ากัน
  • การชาร์จไร้สายก็มี ระบบชาร์จไว ไม่ใช่แค่การชาร์จแบบมีสายเท่านั้นที่มี ระบบชาร์จไว นะ การชาร์จไร้สายก็มีเทคโนโลยีนี้เหมือนกัน เช่น Qi Fast Wireless Charging หรือ Samsung Fast Wireless Charging ซึ่งสามารถชาร์จได้เร็วกว่าการชาร์จไร้สายแบบปกติหลายเท่า แต่ก็ยังช้ากว่าการชาร์จแบบมีสายอยู่ดี
  • ระวังเรื่องความเข้ากันได้ แม้ว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะรองรับการชาร์จเร็วได้หลายแบบ แต่บางครั้งก็อาจมีปัญหาความเข้ากันได้ เช่น อุปกรณ์บางชิ้นอาจไม่รองรับ Quick Charge แต่รองรับ USB-PD ดังนั้น ก่อนซื้ออุปกรณ์ชาร์จใหม่ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเข้ากันได้กับอุปกรณ์ของเราด้วย

     สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือ อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะรองรับการชาร์จเร็วได้หลายแบบ เช่น สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ อาจรองรับทั้ง Quick Charge และ USB-PD ได้ในเครื่องเดียวกัน แต่ถ้าอยากได้ความเร็วสูงสุด ก็ควรใช้อุปกรณ์ชาร์จที่เป็นของแท้จากแบรนด์นั้นๆ จะดีที่สุด

     ระบบชาร์จไว หรือเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้นมาก โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ตลอดเวลา

     แม้ว่าจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังที่เราต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะเรื่องความร้อนและผลกระทบต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในระยะยาว

     ในอนาคต เราคงได้เห็นการพัฒนาของเทคโนโลยี ระบบชาร์จไว ที่เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และอาจมีมาตรฐานที่เป็นสากลมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายยิ่งขึ้นไปอีก แต่ปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆ การรู้จักและเข้าใจเทคโนโลยีชาร์จไว จะช่วยให้เราใช้งานอุปกรณ์ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด