- ล่าสุด
- ไลฟ์สไตล์
เทียบสเปก MacBook Air M1 vs M2 ซื้อรุ่นไหนดี
by Utech 79 Views
ตระกูล MacBook Air ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ M1 ไปจนถึงรุ่นล่าสุดที่วางขายแล้วอย่างชิป M4 อย่างไรก็ตาม MacBook Air M3 ก็ได้พัฒนาประสิทธิภาพที่ดีขึ้นพอสมควรเมื่อเทียบกับชิป M2 แต่นั่นก็มาพร้อมกับราคาเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้คนที่ทำงานทั่วไป หากจะเลือกซื้อ MacBook ในราคากลาง ๆ แต่ยังมีประสิทธิภาพที่้งานได้ดีครบถ้วนแล้ว อาจจะอยากพิจารณาระหว่างรุ่นชิป M1และ M2 มากกว่า ในบทความนี้ เราจะมาดูการเปรียบเทียบระหว่าง MacBook Air M1 และ M2 โดยจะพิจารณาว่ารุ่นใหม่มีประสิทธิภาพมากกว่าแค่ไหน และพลังที่เพิ่มขึ้นนั้นคุ้มค่ากับราคาที่สูงขึ้นหรือไม่ ไปหาคำตอบด้วยกัน
เทียบสเปก MacBook Air M1 vs M2 ซื้อรุ่นไหนดี ?
- ดีไซน์และการเชื่อมต่อ
MacBook Air ทั้งสองรุ่นมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามและบางเบา แต่ M2 มีการปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัยกว่า ด้วยดีไซน์เรียบหรูที่มีความบางสม่ำเสมอตลอดทั้งเครื่อง ต่างจาก M1 ที่มีดีไซน์แบบลาดเอียงหรือรูปลิ่ม ในด้านสีสัน M1 มาพร้อมสี Space Gray, Silver และ Gold ส่วน M2 มีสี Space Gray, Silver, Starlight และ Midnight ซึ่งสี Midnight เป็นสีน้ำเงินเข้มจะเป็นสีชูโรงของรุ่นนี้
ความแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างคือพอร์ตเชื่อมต่อ MacBook Air M2 มีพอร์ต MagSafe 3 สำหรับชาร์จโดยเฉพาะ พร้อมพอร์ต Thunderbolt/USB 4 สองพอร์ตและแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ในขณะที่ M1 มีเพียงพอร์ต Thunderbolt/USB 4 สองพอร์ตและแจ็คหูฟัง ทำให้เวลาชาร์จต้องเสียพอร์ต Thunderbolt ไปหนึ่งพอร์ต
- หน้าจอแสดงผล
MacBook Air M2 มาพร้อมจอ Liquid Retina ขนาด 13.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1664 พิกเซล ให้ความสว่างสูงสุด 500 nits และรองรับการแสดงผลสีในระบบ P3 ได้มากถึงพันล้านสี ขณะที่ M1 ใช้จอ Retina ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ความสว่าง 400 nits และรองรับการแสดงผลสีในระบบ P3 ได้หลายล้านสี
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือจอของ M2 สว่างกว่าและให้สีสันที่แม่นยำกว่า โดยเฉพาะเมื่อรับชมคอนเทนต์ HDR จะเห็นความแตกต่างของการไล่เฉดสีและความสว่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ M2 ยังมีกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p ที่ให้ภาพคมชัดกว่ากล้อง 720p ของ M1 อย่างเห็นได้ชัด
- ประสิทธิภาพการทำงาน
ชิป M2 เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดจาก M1 มาพร้อมการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยมี CPU 8 cores (4 cores ประสิทธิภาพสูง และ 4 cores ประหยัดพลังงาน) เช่นเดียวกับ M1 แต่ M2 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 11% ในการทำงานแบบ Single-core และ 15-18% ในการทำงานแบบ Multi-core
ความแตกต่างนี้อาจไม่เห็นชัดในการใช้งานทั่วไป แต่จะเห็นได้ชัดถ้าเราทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ การทำงานกราฟิก หรือการเปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน นอกจากนี้ M2 ยังมาพร้อมเอนจิน ProRes ที่ช่วยให้การประมวลผลสื่อมัลติมีเดียทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่และการชาร์จ
แบตเตอรี่เป็นจุดที่ M2 โดดเด่นมาก ด้วยความจุแบตเตอรี่ 52.6 วัตต์-ชั่วโมง สามารถใช้งานได้นานถึง 14 ชั่วโมงในการใช้งานทั่วไป เทียบกับ M1 ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 49.9 วัตต์-ชั่วโมง ใช้งานได้ 13 ชั่วโมง 10 นาที
นอกจากนี้ M2 ยังมาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จแบบ Dual USB-C ขนาด 35W ที่สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน และระบบ MagSafe ที่ชาร์จได้เร็วกว่าและปลอดภัยกว่า เพราะสายชาร์จจะหลุดออกเองเมื่อถูกดึงแรง ๆ ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับตัวเครื่องได้อีกด้วย
- ประสิทธิภาพด้านกราฟิก
MacBook Air M2 มีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านประสิทธิภาพกราฟิก โดยมีพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับ M1 โดยเฉพาะในรุ่นที่มาพร้อม GPU 10 cores ความสามารถนี้ทำให้การตัดต่อวิดีโอ 4K ทำได้สบาย ๆ การทำงานด้านกราฟิก 3D มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงการเล่นเกมที่ต้องการการ์ดจอประสิทธิภาพสูงก็ทำได้ดีกว่า นอกจากนี้ ยังรองรับการทำงานด้าน AR/VR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ M2 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับคนที่ทำงานดีไซน์หรือครีเอเตอร์
- การระบายความร้อน
M2 มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนที่ได้รับการออกแบบใหม่ ทำให้สามารถทำงานได้เงียบกว่าแม้ในสภาวะที่ใช้งานหนัก การรักษาประสิทธิภาพในการทำงานต่อเนื่องทำได้ดีกว่า M1 อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้ทรัพยากรระบบสูงเป็นเวลานาน เช่น การเรนเดอร์วิดีโอหรือเขียนโค้ดแบบหนัก ๆ
- ราคาและความคุ้มค่า
ปัจจุบัน MacBook Air M1 รุ่นเริ่มต้น 13 นิ้ว ได้เลิกผลิตและไม่มีจำหน่ายใน Apple Store แล้ว แต่ราคาท้องตลาดที่ยังมีสต็อคอยู่จะอยู่ที่ประมาณ 26-27,000 บาท จะถูกกว่า M2 ประมาณ 10,000 บาท ที่ราคา 34,900 บาท โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อม RAM 8GB และ SSD 256GB เท่ากัน แต่ M2 สามารถอัปเกรด RAM ได้สูงถึง 24GB ในขณะที่ M1 อัปเกรดได้สูงสุดเพียง 16GB เท่านั้น
ในด้านกราฟิก M1 มาพร้อม GPU 7 cores ส่วน M2 มี GPU 8 cores ในรุ่นมาตรฐาน และสามารถเลือกรุ่นที่มี GPU 10 cores ได้หากต้องการประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่สูงขึ้น
สรุป
MacBook Air M2 เป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจด้วยดีไซน์ใหม่ที่ทันสมัย มาพร้อมกับพลังประมวลผลที่เหนือชั้นกว่า M1 ถึง 20% หน้าจอ Liquid Retina และแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น ทำให้คุณทำงานได้ทั้งวันอย่างไม่มีสะดุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง และมีงบประมาณสูงขึ้นมาอีกสักหน่อย
ในขณะที่ MacBook Air M1 ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับใครที่ต้องการแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพดีมาก ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า เหมาะกับการทำงานที่ไม่ต้องใช้ประสิทธิภาพเครื่องสูงๆ การเลือกระหว่างสองรุ่นนี้จึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณเป็นหลัก โดยไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ทั้งสองก็นับว่าเป็นแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่ากับการลงทุน
ถ้าคุณกำลังมองหา MacBook เครื่องใหม่ นี่คือจังหวะที่ดีที่สุด อย่าพลาดโอกาสเป็นเจ้าของ MacBook Air M2 ในราคาสุดคุ้ม! UTECH ขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ MacBook Air M2 รุ่น CTO ที่ให้คุณได้มากกว่า ทั้งแรม ความจุ และการ์ดจอที่เพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับใครที่ชอบคอมเร็วแรงขั้นสุด
โปรโมชันลดสูงสุด 8,000 บาท เฉพาะที่ URECH เท่านั้น!
MacBook Air M2 CTO (RAM 16GB | GPU 10 Core | SSD 512GB)
จากปกติ 48,900 บาท เหลือเพียง 42,900 บาท
MacBook Air M2 CTO (RAM 16GB | GPU 10 Core | SSD 1TB)
จากปกติ 55,900 บาท เหลือเพียง 49,900 บาท
MacBook Air M2 CTO (RAM 24GB | GPU 10 Core | SSD 2TB)
จากปกติ 76,900 บาท เหลือเพียง 68,900 บาท