เจาะลึกจุดเด่น iPad Pro พลังจากชิป M4 ที่ยกระดับการใช้งาน

iPad Pro รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับชิป M4 ที่ทรงพลัง ซึ่งนำเสนอประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและความสามารถด้าน AI ที่ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยการประมวลผลที่รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมระบบการเรียนรู้เชิงลึกที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การอัปเกรดครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความเร็วในการประมวลผลให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 40% แต่ยังรองรับการทำงานหลายด้านได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเป็นงานกราฟิกที่ต้องการความละเอียดสูงอย่างการออกแบบและตกแต่งภาพดิจิทัล การตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่รองรับไฟล์ความละเอียด 4K และ 8K การทำงานด้าน 3D ที่ซับซ้อนอย่างการสร้างโมเดลและแอนิเมชัน หรือการใช้งานแอพพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลโดยไม่มีสะดุด ด้วยการจัดการทรัพยากรระบบที่มีประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ มาดูรายละเอียดการทำงานในแต่ละด้านไปพร้อมๆ กันได้เลย

iPad Pro กับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วยชิป M4 และเทคโนโลยี AI

iPad Pro รุ่นใหม่ล่าสุด มีให้เลือกทั้ง 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยชิป M4 ที่มาพร้อมกับความสามารถด้าน AI ที่ล้ำสมัยและทรงประสิทธิภาพ ชิปรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับการประมวลผลข้อมูลและการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในด้านการประมวลผลที่ซับซ้อนและงานที่ต้องการทรัพยากรระบบสูง

การทำงานของระบบมีความเสถียรและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีประสิทธิภาพและการจัดการทรัพยากรที่ชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมวลผลที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์ภาพ 3D การประมวลผลวิดีโอความละเอียดสูง หรือการทำงานที่ต้องการการคำนวณที่ซับซ้อน

ระบบ AI ที่ฝังตัวมาในชิป M4 นี้ได้รับการออกแบบมาให้มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งช่วยให้การทำงานต่างๆ มีความแม่นยำและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถคาดการณ์และปรับแต่งการทำงานให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างชาญฉลาด

สเปคของชิปประมวลผล M4

ชิป M4 ใช้สถาปัตยกรรม ARM ซึ่งได้รับการพัฒนาและออกแบบมาเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ Apple มาพร้อม CPU 9-core แบ่งเป็น 3 คอร์ประสิทธิภาพสูงและ 6 คอร์ประหยัดพลังงานสำหรับงานทั่วไป สำหรับรุ่นความจุ 1TB และ 2TB จะมี CPU 10-core เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่

สำหรับ GPU ของ M4 มาพร้อม GPU 10-core ประสิทธิภาพสูง ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลกราฟิกที่ต้องการพลังงานมาก พร้อมระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะที่สร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน ทำให้สามารถทำงานที่ต้องการการแสดงผลซับซ้อนได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเรนเดอร์ภาพ 3D ความละเอียดสูง การตัดต่อวิดีโอ 4K หรือ 8K หรือการรันแอพพลิเคชันที่ใช้ทรัพยากรอย่างเกมที่มีกราฟิกสมจริงและโปรแกรมออกแบบ 3D ระดับมืออาชีพ

หน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บข้อมูล

iPad Pro รุ่นใหม่มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และ 16GB ซึ่งช่วยให้สามารถทำงานหลายแอพพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างราบรื่น ในส่วนของพื้นที่จัดเก็บข้อมูล มีให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB ไปจนถึง 2TB เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน การจัดการไฟล์และข้อมูลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบไฟล์ที่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับชิป M4 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ NVMe ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูง ช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 40 Gbps ทำให้การโหลดแอพพลิเคชันและการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและเสถียร ระบบการจัดการหน่วยความจำได้รับการออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับชิป M4 ได้อย่างลงตัว ส่งผลให้สามารถใช้งานหลายแอพพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ ระบบมีการจัดลำดับความสำคัญของแอพพลิเคชันอย่างชาญฉลาด โดยวิเคราะห์และประเมินความต้องการทรัพยากรของแต่ละแอพพลิเคชัน ทำให้สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสมตามการใช้งานจริง ระบบสามารถปรับเปลี่ยนการจัดสรรทรัพยากรแบบทันทีตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลง ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นนี้ ผู้ใช้จึงสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพของระบบ แม้ในขณะที่ใช้งานหลายแอพพลิเคชันพร้อมกันอย่างหนัก

จอแสดงผลและประสิทธิภาพการแสดงผล

จอแสดงผล Liquid Retina XDR ที่ให้คุณภาพระดับพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยี mini-LED ที่มอบความสว่างสูงสุดถึง 1,600 nits และอัตราส่วนความเปรียบต่างที่ 1,000,000:1 ทำให้ภาพที่แสดงผลมีความสมจริงและสีสันที่สดใส ด้วยอัตรารีเฟรชที่ 120Hz ผ่านเทคโนโลยี ProMotion ทำให้การเลื่อนหน้าจอและการตอบสนองต่อการสัมผัสเป็นไปอย่างนุ่มนวลและธรรมชาติ โดยมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ 11 นิ้ว ที่ความละเอียด 2420 x 1668 พิกเซล ที่ 264 ppi และ 13 นิ้ว ที่ความละเอียด 2752 x 2064 พิกเซล ที่ 264 ppi

การแสดงผลประสิทธิภาพสูงนี้รองรับงานกราฟิกที่ซับซ้อนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะงานออกแบบและตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ต้องการความแม่นยำของสีและความละเอียดสูง ด้วยพื้นที่สี P3 wide color ที่กว้าง จึงสามารถแสดงสีได้สมจริงและแม่นยำในทุกรายละเอียด ทั้งเฉดสีละเอียดอ่อนและสีสดใส การแสดงผลที่แม่นยำนี้ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าผลงานจะออกมาสวยงามและสมจริงตามต้องการ เหมาะสำหรับการทำงานระดับมืออาชีพทุกด้าน

จอแสดงผลยังรองรับ True Tone ที่ปรับสมดุลสีให้เข้ากับแสงแวดล้อม และมีการเคลือบผิวแบบ anti-reflective ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้สามารถใช้งานได้สบายตาในทุกสภาพแสง นอกจากนี้ ยังรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ที่มีความแม่นยำสูงและการตอบสนองที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการวาดภาพและจดบันทึก

Apple Pencil รุ่นที่ 2 มาพร้อมระบบตรวจจับแรงกดที่แม่นยำสูง รองรับถึง 4,096 ระดับ ทำให้ควบคุมความหนาของเส้นและน้ำหนักในการวาดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยอัตราการหน่วงต่ำเพียง 9 มิลลิวินาที การวาดจึงแม่นยำและลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ double-tap ที่ช่วยสลับระหว่างเครื่องมือต่างๆ ได้รวดเร็ว ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการทำงานได้ตามต้องการ เช่น การสลับระหว่างปากกากับยางลบ หรือเครื่องมือที่ใช้งานบ่อย