ย้อนรอยประวัติศาสตร์ของคีย์บอร์ด ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน

     คีย์บอร์ดเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและใช้งานอยู่เป็นประจำทุกวัน แต่เราเคยสงสัยบ้างไหมว่าคีย์บอร์ดมีประวัติความเป็นมาอย่างไร และใครคือบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการคิดค้นคีย์บอร์ดในแต่ละยุคแต่ละสมัย ที่พัฒนามาจนเป็นคีย์บอร์ดสุดล้ำ ฟังก์ชันครบครันแบบปัจุบัน วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนรอยไปสำรวจประวัติศาสตร์ของคีย์บอร์ดกัน ว่าเริ่มต้นจากอะไร ใครคิดค้นคีย์บอร์ดในแต่ละยุคกว่าจะมาเป็นคีย์บอร์ดในยุคปัจจุบัน

 

เปิดประวัติศาสตร์ของคีย์บอร์ดจากยุคเริ่มต้น

ยุคเริ่มต้น

     การคิดค้นคีย์บอร์ดแบบดั้งเดิมเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ในการพิมพ์เอกสาร บุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการคิดค้นครั้งนี้คือ วิลเลียม ออสเตน เบิร์ต (William Austin Burt) ชาวอเมริกัน ซึ่งได้สร้างคีย์บอร์ดตัวแรกที่เรียกว่า "ไตเปอร์" (Typographer) ในปี 1829


     คีย์บอร์ดแบบดั้งเดิมในยุคนั้นจะมีลักษณะเป็นแป้นพิมพ์ดีดที่มีลูกสูบและแม่พิมพ์ ผู้ใช้จะต้องกดแป้นพิมพ์ดีดเพื่อให้ลูกสูบพุ่งขึ้นมากระทบกับแม่พิมพ์ที่มีตัวอักษรหรือตัวเลขเพื่อพิมพ์ลงบนกระดาษ ถึงแม้ว่าคีย์บอร์ดในรูปแบบนี้จะยังไม่เป็นที่นิยม แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาคีย์บอร์ดในยุคนั้น

 

ยุคพิมพ์ดีด

     หลังจากนั้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ได้มีการพัฒนาเครื่องพิมพ์ดีดอย่างเป็นทางการ โดยมีบริษัท Remington เป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นแรกในปี 1874 เครื่องพิมพ์ดีดเหล่านี้ใช้หลักการเดียวกันกับคีย์บอร์ดแบบแรก คือมีลูกสูบและแม่พิมพ์ แต่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

     บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเครื่องพิมพ์ดีดคือ คริสโตเฟอร์ ลาธาม ชอว์ (Christopher Latham Sholes) ผู้คิดค้นและออกแบบเครื่องพิมพ์ดีดขึ้นมา รวมถึงการจัดวางตำแหน่งของแป้นพิมพ์ในรูปแบบ QWERTY ที่เรายังคงใช้กันอยู่จนถึงทุกวันนี้

 

สู่ยุคปัจจุบันของคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์

     ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 เริ่มมีการผลิตคีย์บอร์ดแบบใหม่ที่มีฟังก์ชันสำหรับการใช้งานกราฟิกและพกพาได้สะดวก ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 คีย์บอร์ดแบบใหม่ก็ได้ถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ดิจิทัลยุคใหม่อย่างสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเสียงสั่งงาน ทำให้การพิมพ์เริ่มลดบทบาทลง แต่คีย์บอร์ดก็ยังคงเป็นอุปกรณ์หลักในการป้อนข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์ และยังมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมเกมและ e-Sport

 

ยุค Membrane Keyboard

     เมื่อเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เริ่มแพร่หลายในช่วงทศวรรษ 1970 คีย์บอร์ดก็ได้รับการพัฒนาให้เข้ากับคอมพิวเตอร์มากขึ้น คีย์บอร์ดประเภท Membrane หรือที่เรียกว่า Rubber Dome เป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคนี้ โดยมีบริษัท MICRO Switch ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนกของบริษัท Honeywell เป็นผู้คิดค้นขึ้น

      คีย์บอร์ด Membrane มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยแผ่นไดอะแฟรมที่อยู่ระหว่างแผ่นวงจรและแผ่นยางโดม เมื่อกดแป้นพิมพ์ จะทำให้โดมยางถูกกดลงไปสัมผัสกับแผ่นวงจรและส่งสัญญาณไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์

     ข้อดีของ Membrane Keyboard คือมีราคาถูก ทำความสะอาดง่าย และป้องกันฝุ่นละอองได้ดี แต่ข้อเสียคือการรับรู้การกดแป้นพิมพ์ไม่ค่อยดีนัก มีระยะการกดสั้น และอายุการใช้งานไม่นานนัก

ยุค Mechanical Keyboard

      เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของ Membrane Keyboard จึงได้มีการพัฒนา Mechanical Keyboard หรือคีย์บอร์ดแบบกลไก โดยใช้หลักการของสวิตช์ที่มีสปริงอยู่ภายในแป้นพิมพ์

      บริษัท Hitek เป็นผู้ริเริ่มนำคีย์บอร์ดแบบกลไกมาใช้กับคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรกในปี 1976 แนวคิดหลักของ Mechanical Keyboard คือเมื่อกดแป้นพิมพ์ สปริงจะทำงานโดยส่งสัญญาณไปยังแผงวงจรควบคุมและส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์

     หลังจากนั้นในช่วงปลายทศวรรษ 1980 บริษัท Cherry Corporation ผู้ผลิตสวิตช์จากเยอรมนีก็ได้พัฒนาสวิตช์ประเภท Cherry MX ซึ่งถือเป็นสวิตช์มาตรฐานสำหรับ Mechanical Keyboard ในปัจจุบัน

     ข้อดีของ Mechanical Keyboard คือรับรู้การกดแป้นพิมพ์ได้ดีมาก เนื่องจากมีสปริงทำให้มีระยะการกดไกลกว่า Membrane นอกจากนี้ ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า แต่ข้อเสียคือ มีราคาแพงกว่า ทำความสะอาดค่อนข้างยาก ด้วยมีโครงสร้างที่ซับซ้อน และอาจมีเสียงดังขณะการพิมพ์

ยุค Magnetic Keyboard

     ล่าสุดในปัจจุบันได้มีการพัฒนา Magnetic Keyboard หรือคีย์บอร์ดที่ใช้แม่เหล็กในการทำงาน โดยบริษัท Scissor Hands เป็นผู้ริเริ่มนำเสนอแนวคิดของคีย์บอร์ดประเภทนี้เป็นครั้งแรกในปี 2016

     คีย์บอร์ด Magnetic Keyboard จะมีแม่เหล็กอยู่ใต้แป้นพิมพ์แทนที่จะเป็นสปริง เมื่อกดแป้นพิมพ์ลง แม่เหล็กจะถูกดึงลงไปทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้าขึ้น ซึ่งจะส่งผ่านไปยังวงจรควบคุมของคอมพิวเตอร์

     ข้อดีของ Magnetic Keyboard คือมีระยะการกดที่สั้นกว่า Mechanical แต่ยังมีความรู้สึกของการกดแป้นพิมพ์ที่ดี มีเสียงรบกวนน้อยกว่า ทำความสะอาดง่าย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ข้อเสียคือยังมีราคาที่สูงกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่น


      จากการย้อนรอยประวัติศาสตร์ของคีย์บอร์ด เราจะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาและปรับปรุงคีย์บอร์ดอย่างต่อเนื่องของบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม IT เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ คาดว่าคีย์บอร์ดในอนาคตจะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างไปอีก เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น

 

สินค้าที่คุณสนใจเพิ่มเติม